Kardachian: blockchain สัญชาติเวียดนามเปิดระบบจริงแล้ว
Kardachian มุ่งเป้าให้ต่างเครือข่าย Blockchain ใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ด เปิดใช้งานจริงแล้ววันนี้
Kardachian มุ่งเป้าให้ต่างเครือข่าย Blockchain ใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ด เปิดใช้งานจริงแล้ววันนี้
Kardachain คืออะไร
Kardachain คือเครือข่าย Blockchain สัญชาติเวียดนามซึ่งถูกพัฒนาขึ้นนับตั้งแต่ช่วงปี 2018 โดยมีเป้าหมายในการดึงขีดความสามารถของวงการออกมาโดยการเชื่อมการสื่อสารข้ามเครือข่ายเข้า ด้วยกันเพื่อให้สามารถใช้งานระหว่างกันได้มากขึ้น (Cross-Chain Interoperability)
โครงการดังกล่าวนี้มีนาย Tri Pham เป็นผู้บริหารใหญ่และผู้ร่วมก่อตั้ง ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2018 ที่โครงการดังกล่าวได้พัฒนาขึ้นจนเข้าสู่ช่วงการทดลองระบบเครือข่ายก่อนการใช้จริงหรือ Testnet นั้น ในที่สุดก่อนสิ้นปี 2020 นั้นทางโครงการดังกล่าวก็ได้เปิดใช้งานระบบอย่างเต็มรูปแบบ หรือ Mainnet ในที่สุด
ทั้งนี้ Kardachain ยังได้รับการจับตามองอย่างมาเนื่องจากเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทลูกของ LG อย่าง LG CNS และบริษัทอื่น ๆ เช่น Geleximco, HPT Vietnam, Biti’s และกลุ่มผู้ให้บริการแท็กซี่สัญชาติเวียดนามอย่าง Mai Linh Group ในฐานะผู้ร่วมเป็น Validator หรือผู้ประมวลผลอิสระของเครือข่าย โดยมุ่งเป้าให้บริการเฉพาะในประเทศเวียดนามและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
การแก้ปัญหา Cross-chain interoperability
ปัญหาการทำงานร่วมกันของเครือข่าย Blockchain แต่ละประเภทนั้นเกิดขึ้นทั้งจากปัจจัยด้านเทคนิคเช่น การตั้งค่าและการสร้างเหรียญบนโครงสร้างที่ต่างกัน แม้แต่เหรียญ ERC-20 กันแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ หรือปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวของเครือข่ายระหว่าง Private blockchain และ Public Blockchain ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้นักพัฒนาต่างพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด
ในปัจจุบันนี้ได้มีความพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยวิธีที่หลากหลายนั้นตั้งแต่การใช้เครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งที่มีศักยภาพในการประมวลผลธุรกรรมสูงดำเนินการเป็นแพลตฟอร์มกลางโดยอาศัยการใช้เหรียญของแพลตฟอร์มนั้น ๆ หรือการ Wrap เข้ารหัสเหรียญเพื่อใช้งาน อย่างที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายซึ่งต่อยอดบน Ethereum บางชนิด ไปจนกระทั่งใช้งานแพลตฟอร์มอย่าง Cosmos หรือ Polkadot โดยเครือข่ายที่เข้าร่วมจำเป็นต้องดำเนินตามกฎที่ตั้งไว้ของแพลตฟอร์ม
ตัวอย่างวิธีการแก้ไขปัญหาข้างต้นนั้นได้ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านอำนาจการควบคุมเครือข่ายเดิมเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการใช้งานเครือข่ายบางประการเพื่อให้ใช้งานเครือข่ายกลางนั้น ๆ ได้ หรือแม้แต่การสูญเสียอำนาจการควบคุมเหรียญเนื่องจากการนำเหรียญไปเข้ารหัสบนเครือข่ายอื่นแล้ว เป็นต้น
Kardachain นั้นได้เข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยทำให้เครือข่ายอื่น ๆ นั้นสามารถเชื่อต่อเข้ากับเครือข่ายของ Kardachain ได้โดนไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการใช้งานเครือข่ายใดๆ ของตนเลย ซึ่งสามารถใช้งานได้โดยไม่จำกัดพื้นฐาน Protocol ของเครือข่าย โดยสามารถรองรับธุรกรรมกว่า 6,000 รายการต่อวินาที และยังมีต้นทุนการดำเนินธุรกรรมที่ถูกกว่า Ethereum ถึงหนึ่งหมื่นเท่าอีกด้วย