ปากีสถานเตรียมก้าวกระโดดสู่ยุค Bitcoin ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่และนโยบายภาครัฐ
ปากีสถานกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของระบบการเงินด้วยการยอมรับ Bitcoin ในระดับนโยบาย โดยอาศัยพลังของประชากรที่ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับเอลซัลวาดอร์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลและขุด Bitcoin จากพลังงานส่วนเกิน

ปากีสถานกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของระบบการเงินด้วยการยอมรับ Bitcoin ในระดับนโยบาย โดยอาศัยพลังของประชากรที่ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับเอลซัลวาดอร์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลและขุด Bitcoin จากพลังงานส่วนเกิน
Bilal Bin Saqib รัฐมนตรีประจำกระทรวงคริปโตและบล็อกเชนของปากีสถาน เปิดเผยว่าประเทศกำลังก้าวสู่การยอมรับ Bitcoin อย่างจริงจัง โดยอาศัยปัจจัยทางประชากรศาสตร์ที่โดดเด่น ได้แก่ ประชากรจำนวนมากที่มีอายุน้อยและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เรื้อรังมานาน
“ประชากรของเรามีอายุเฉลี่ยเพียง 20 ปี มีมากถึง 250 ล้านคน โดย 70% อยู่ในวัยต่ำกว่า 30 ปี” Bin Saqib กล่าว พร้อมย้ำว่า หากนับเพียงเยาวชนของปากีสถาน ก็เทียบเท่ากับประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 9 หรือ 10 ของโลก
เขาเชื่อว่า ตลาดเกิดใหม่อย่างปากีสถานมีโอกาส "ก้าวกระโดด" แซงหน้าประเทศพัฒนาแล้วในการยอมรับเทคโนโลยีทางการเงินใหม่อย่าง Bitcoin โดยชี้ว่า “ประเทศเล็กสามารถเปลี่ยนทิศทางได้เร็วกว่าเรือยักษ์อย่าง Titanic”
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 รัฐบาลปากีสถานเริ่มวางกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการ โดยปัจจุบันประเทศมีวอลเล็ตคริปโตแล้วกว่า 40 ล้านรายการ และติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกด้านอัตราการนำคริปโตมาใช้จริง
หนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญล่าสุดคือการลงนามความร่วมมือกับเอลซัลวาดอร์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อแบ่งปันความรู้ด้าน Bitcoin การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัล และการใช้พลังงานเพื่อการขุดคริปโต
“ทั้งสองประเทศอยู่ภายใต้โครงการของ IMF และกำลังมองหาวิธีใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ” Bin Saqib กล่าว
นอกจากนี้ ปากีสถานยังวางแผนใช้พลังงานไฟฟ้าส่วนเกินประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ ในการขุด Bitcoin และสร้างศูนย์ข้อมูล AI โดยมองว่าพลังงานส่วนเกินที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการผลิตแต่ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สามารถเปลี่ยนเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจภายในประเทศได้
รัฐบาลยังเตรียมจัดตั้ง “Strategic Bitcoin Reserve” แห่งชาติ พร้อมออกแบบ Stablecoin ภายในประเทศ และพัฒนาระบบออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจว่าการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมคริปโตจะเป็นไปในทิศทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว