🇺🇸 United States

มองเห็นความเสี่ยง! รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เร่งสภาออกกฎหมายคุม 'คริปโต' และ 'Stablecoin'

Janet Yellen เรียกร้องสภาเร่งออกกฎหมาย 'ควบคุมคริปโต' และ 'Stablecoin'

รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ Janet Yellen เรียกร้องสภาเร่งออกกฎหมาย 'ควบคุมคริปโต' และ 'Stablecoin' โดยอ้างถึงความกังวลของ 'สภากำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงิน(FSOC)'

เมื่อวันอังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา 'Janet Yellen' รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ ได้ออกมากล่าวสรุประเด็นสำคัญ ในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการสภาบริการทางการเงิน เกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินงานของสภากำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (FSOC) ในปี 2024 นี้

เร่งสภาออกกฎหมายควบคุม!

ในการประชุม Janet Yellen ได้เรียกร้องให้รัฐสภาออกกฎหมายปกป้องผู้ใช้งานคริปโตรวมถึงระบบการเงิน โดยได้กล่าวเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่อุตสาหกรรมคริปโตกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในด้านการฟอกเงิน, การโจมตีของเหล่าแฮกเกรอ์ และความผันผวนในราคาที่เกิดขึ้นจากผู้เล่นรายใหญ่

ขณะนี้ทางสภากำลังให้ความสนใจในประเด็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในเรื่องความผันผวนของราคา และความปลอดภัยของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน รวมถึงความเสถียรในด้านราคาของเหรียญ Stablecoin 
โดยทั้งนี้กังวลอย่างมากเกี่ยวกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ไม่ได้ลงทะเบียนกำหน่วยงานกำกับ ดังนั้นทางสภาคองเกรสจึงควรออกกฎหมาย เพื่อให้มีการจัดการและควบคุมสกุลเงินดิจิทัลทั้งที่เป็นและไม่เป็นหลักทรัพย์

Janet Yellen รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ กล่าว

นอกจากนี้เธอยังกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากความกังวลในประเด็นที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทางหน่วยงาน FSOC ยังจับตาดูในประเด็นที่เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในภาคธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ โดยสนับสนุนหน่วยงานกำกับดูแลให้ทบทวนความเหมาะสมของมาตรฐานด้านการรับความเสี่ยงของสถาบันการเงิน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารที่อาจมีผลต่อระบบการเงิน

ที่มา: DailyHodl

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์ชี้ Bitcoin ยังมีโอกาสพุ่งแตะจุดสูงสุดในช่วง $220,000 ถึง $330,000 แม้ราคาปัจจุบันเริ่มย่อตัว
Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $104,000 แต่ข้อมูลชี้! นักเทรดมืออาชีพยังเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น
นายกเทศมนตรีเมืองปานามาเสนอแนวคิดให้เรือที่จ่าย Bitcoin ได้รับสิทธิลัดคิวผ่านคลองปานามา
ปริมาณธุรกรรม Stablecoin พุ่งแตะ 94,000 ล้านดอลลาร์ นำโดยการชำระเงินแบบ B2B และการเชื่อมกับบัตร