Saylor เร่งซื้อ Bitcoin เพิ่มกว่าเท่าตัว หลัง Trump ชนะเลือกตั้ง
บริษัท Strategy ซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 60% ของพอร์ตทั้งหมดภายใน 9 เดือนที่ผ่านมา หลัง Donald Trump ชนะเลือกตั้ง โดยสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งทุ่มซื้อครั้งใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์บริษัท

บริษัท Strategy ซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 60% ของพอร์ตทั้งหมดภายใน 9 เดือนที่ผ่านมา หลัง Donald Trump ชนะเลือกตั้ง โดยสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งทุ่มซื้อครั้งใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์บริษัท
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ Donald Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ บริษัทที่เก็บสะสม Bitcoin ของ Michael Saylor อย่าง Strategy ก็ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin มากกว่าสองเท่าภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา Strategy เข้าซื้อ Bitcoin จำนวน 376,571 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 43,200 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาตลาดปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็น 60% ของ Bitcoin ทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ในตอนนี้ที่จำนวน 628,791 เหรียญ ขณะที่ก่อนหน้าการเลือกตั้งของ Trump บริษัทใช้เวลากว่า 4 ปีถึงจะสะสมได้ 252,220 เหรียญ
การเร่งเก็บสะสม Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมามีขึ้นหลังจาก Trump ส่งสัญญาณการสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตอย่างชัดเจน และยังยกเลิกนโยบายบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดต่อวงการคริปโตในยุคของประธานาธิบดี Biden
ซื้อเพิ่มอีก 21,021 BTC สัปดาห์เดียว 2.46 พันล้านดอลลาร์
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Strategy ได้ยื่นรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ว่าเพิ่งซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 21,021 เหรียญ คิดเป็นมูลค่า 2.46 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว นับเป็นการซื้อครั้งใหญ่อันดับ 3 ของบริษัทในแง่มูลค่าเงิน นับตั้งแต่เริ่มเข้าสะสม Bitcoin เมื่อ 5 ปีก่อน
ครั้งนี้ Strategy เข้าซื้อในระดับราคาที่ค่อนข้างสูง โดยมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 117,256 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังมั่นใจในกลยุทธ์การเก็บสะสม Bitcoin ของตน แม้ราคาจะอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์
จากข้อมูลของบริษัท Strategy ยังได้ซื้อครั้งใหญ่ 2 ครั้งหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ 55,500 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ และ 51,780 เหรียญ มูลค่าถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์
Saylor ชี้ Bitcoin คือ “ไวรัสแห่งเสรีภาพ”
Michael Saylor ประธานผ่ายบริหารและผู้ก่อตั้งของ Strategy กล่าวในรายการ Fox Business เมื่อวันจันทร์ว่า “เราเรียกมันว่าไวรัสแห่งเสรีภาพ เพราะไม่ว่าที่ไหนในโลก ก็จะมีคนที่คอยสนับสนุนระบบนิเวศของ Bitcoin”
เขายังเปรียบเทียบ Bitcoin ว่า “ไม่ต่างจากฝูงแมลงที่ไม่มีวันที่จะหยุดยั้งได้” พร้อมเสริมว่า Strategy ตั้งเป้าทำผลตอบแทนให้สูงเป็นสองเท่าของราคาของ Bitcoin เอง โดยผ่านเครื่องมือการลงทุนประเภท ‘ตราสารเครดิต’ ภายใต้โครงการ Bitcoin Yield ของบริษัท
Saylor มั่นใจ Wall Street ยังไม่เข้าใจศักยภาพที่แท้จริง
“ผมคิดว่า Wall Street ยังไม่เข้าใจมันจริงๆ” Saylor กล่าวเสริม พร้อมระบุว่า Strategy ตอนนี้กลายเป็นบริษัทการเงินที่ทำกำไรสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐฯ แล้ว
เมื่อถูกถามถึงบริษัทอื่นที่เริ่มนำ Bitcoin มาใช้เป็นทรัพย์สินในคลัง Saylor บอกว่า “มันไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกบริษัทที่ทำแบบนี้ก็เหมือนกับตอนที่คนหันมาใช้เครื่องยนต์ ใช้ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต หรือคอมพิวเตอร์ มันจะกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต”
ทั้งนี้ Strategy เพิ่งประกาศกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ขณะที่ Bitcoin ทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ในปัจจุบันมีมูลค่า 72,200 ล้านดอลลาร์ โดยมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 73,277 ดอลลาร์ต่อเหรียญ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.16% ของจำนวน Bitcoin ที่หมุนเวียนในตลาดทั่วโลกในปัจจุบัน
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว