สมาคม Bitcoin ฮ่องกงลั่น! กฎหมายใหม่จะจำกัดการเข้าถึง BTC ของผู้คน
เหล่านักลงทุนด้านคริปโต ผู้เป็นกระบอกเสียงหลักในฮ่องกง กล่าวว่ากฎข้อบังคับเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลฉบับใหม่ที่เข้ามาอาจกีดกันไม่ให้ประชาชนใช้งานเครื่อง ATM Bitcoin
เหล่านักลงทุนด้านคริปโต ผู้เป็นกระบอกเสียงหลักในฮ่องกง กล่าวว่ากฎข้อบังคับเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลฉบับใหม่ที่เข้ามาอาจกีดกันไม่ให้ประชาชนใช้งานเครื่อง ATM Bitcoin
สมาคม Bitcoin แห่งฮ่องกง ได้ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมข้อเรียกร้องไปถึงหน่วยงานผู้มีหน้าที่กำกับดูแลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดข้อบังคับทางกฎหมาย ซึ่งหวังที่จะให้พวกเขาเหล่านั้นทบทวนการพิจารณาผลกระทบของกฎหมายฉบับใหม่ที่เข้ามาในวาระแห่งนวัตกรรมดิจิทัลของประเทศอีกครั้ง โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางรัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศแผนการที่จะห้ามให้เกิดการค้าปลีกสกุลเงินดิจิทัล และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปราบปรามการฟอกเงินในวงกว้าง
ตามรายงานเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ของสำนักข่าวท้องถิ่นอย่าง South China Morning Post ระบุว่ากฎข้อบังคับเกี่ยวกับ Cryptocurrency ฉบับนี้อาจจะถูกเสนอขอบเขตเพิ่มเติม และขยายข้อจำกัดไปถึงเครื่องถอนเงินอัตโนมัติของ Bitcoin
ในเอกสารการรายงานผลจากกระบวนการศึกษาผลกระทบสำหรับการรับร่างกฎหมายที่ตีพิมพ์ในเดือนพฤศจิกายนสำนักงานบริการทางการเงิน และกระทรวงการคลังของฮ่องกง เปิดเผยว่า มีแผนที่จะควบคุมตู้ ATM Bitcoin ด้วย และหากอ้างอิงข้อมูลจาก CoinAtmRadar ก็จะแสดงให้เห็นว่าฮ่องกงเป็นที่ตั้งของตู้ ATM Bitcoin จำนวนถึง 62 เครื่องเลยทีเดียว
Leo Weese ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคม Bitcoin แห่งฮ่องกง ได้ให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post ซึ่งเขานั้นไม่เห็นด้วยเลยเกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลังของกฎข้อบังคับด้าน Cryptocurrency ฉบับใหม่ โดยระบุว่า
“การจำกัดเหล่าผู้ค้าปลีกไม่ให้เข้าถึง Bitcoin จะเป็นการทำเกินเป้าหมายของรัฐบาลในการส่งเสริมนวัตกรรม และการควบรวมทางการเงิน”
หากกฎระเบียบเพิ่มเติมข้างต้นนั้นสามารถผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ไปได้ กฎระเบียบใหม่นั้นก็จะทำให้ขั้นตอนการออกใบอนุญาต Crypto ของเมืองถูกขยายกระบวนการต่าง ๆ ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังเช่นตัวอย่างจากเหล่าผู้ค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่ในปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (Hong Kong Securities and Futures Commission - SFC) กำหนดให้ต้องมีการลงทะเบียนโดยเฉพาะสำหรับผู้ให้บริการการแลกเปลี่ยนที่แสดงรายการหลักทรัพย์ Cryptoหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเท่านั้นด้วย
ซึ่งไม่นานมานี้ในเดือนธันวาคม OSL แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Fidelity เพิ่งได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก HongKong SFC ภายหลังการประกาศครั้งก่อนของ SFC ที่พวกเขาเห็นพ้องกันในหลักการในการออกใบอนุญาต OSL ที่อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาห่างกันกว่า 4 เดือน
นอกจากนี้กฎหมายที่จะเสนอเพิ่มเติมนั้นยังสะท้อนถึงข้อบังคับที่เข้มงวดกว่า “ในจีนแผ่นดินใหญ่” ที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าพวกเขาห้ามไม่ให้มีการซื้อขาย Crypto เสียด้วยซ้ำ นั่นจึงนำมาซึ่งคำถามที่ว่าเหตุใดฮ่องกงที่เป็นตั้งของบริการซื้อขาย Crypto ที่สำคัญหลายแห่งรวมถึง Bitfinex และ FTX หรือแม้แต่ OKEx และ Huobi กลับต้องมีกฎหมายที่ขัดกับแนวทางการดำเนินงานในประเทศเช่นนี้
