Ethereum รายได้ร่วง 44% ในเดือนสิงหาคม แม้ราคา ETH ทำสถิติสูงสุดใหม่
รายได้จากเครือข่าย Ethereum ลดลง 44% เหลือ 14.1 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ราคา ETH ทำจุดสูงสุดใหม่เกือบ 5,000 ดอลลาร์ จุดชนวนถกเถียงถึงความยั่งยืนของโมเดลเศรษฐกิจ Ethereum

รายได้จากเครือข่าย Ethereum ลดลง 44% เหลือ 14.1 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ราคา ETH ทำจุดสูงสุดใหม่เกือบ 5,000 ดอลลาร์ จุดชนวนถกเถียงถึงความยั่งยืนของโมเดลเศรษฐกิจ Ethereum
แม้ราคาของ Ether (ETH) จะพุ่งขึ้นกว่า 240% ตั้งแต่เดือนเมษายน และแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 4,957 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม แต่รายได้ของเครือข่าย Ethereum ในเดือนเดียวกันกลับร่วงลงอย่างหนัก โดยตามข้อมูลจาก Token Terminal รายได้รวมเดือนสิงหาคมอยู่ที่เพียง 14.1 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากเดือนกรกฎาคมที่ 25.6 ล้านดอลลาร์ หรือหดตัวลงถึง 44%
นอกจากนั้น ค่าธรรมเนียมของเครือข่าย (Network Fees) ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลงจาก 49.6 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม เหลือเพียง 39.7 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม คิดเป็นการลดลงราว 20% ต่อเดือน ปัจจัยหลักมาจากการอัปเกรด Dencun ในเดือนมีนาคม 2024 ที่ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมของเครือข่ายเลเยอร์ 2 ซึ่งทำให้ค่าธรรมเนียมโดยรวมบน Ethereum ลดลงตามไปด้วย
นักวิจารณ์บางรายชี้ว่า การที่ค่าธรรมเนียมและรายได้ของเครือข่ายลดลงต่อเนื่องเป็นสัญญาณของ “ปัจจัยพื้นฐานที่ไม่ยั่งยืน” ของ Ethereum ขณะที่ผู้สนับสนุนมองว่า นี่คือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อสร้างระบบการเงินแห่งอนาคตที่มีต้นทุนต่ำและขยายตัวได้จริง
Wall Street เริ่มจับตา Ethereum
ท่ามกลางข้อถกเถียง Ethereum ยังคงได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากสถาบันการเงิน โดยปี 2025 ถือเป็นช่วงเวลาที่หลายบริษัทมหาชนและกองทุนสถาบันเริ่มหันมาใช้ ETH ในฐานะสินทรัพย์สำรอง (Treasury Asset) และแสดงความสนใจในการทำ Staking เพื่อสร้างผลตอบแทน
บริษัทประชาสัมพันธ์ Etherealize ประกาศว่าได้ระดมทุนถึง 40 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน เพื่อผลักดันการยอมรับ Ethereum ในกลุ่มบริษัทมหาชน ขณะที่ Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Bitwise อธิบายว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าใจแล้วว่า ETH ก็สามารถสร้างรายได้แบบ “บริษัทที่มีผลกำไร” ได้เช่นกัน
“ถ้าคุณนำ ETH มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ไป Stake ในเครือข่าย คุณจะเริ่มสร้างผลตอบแทนได้ทันที และนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนคุ้นเคยจากบริษัทดั้งเดิม” Hougan กล่าว
แม้รายได้และค่าธรรมเนียมเครือข่ายจะลดลง แต่การที่สถาบันเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอาจเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ที่ช่วยให้ Ethereum ยังคงยืนหยัดในฐานะเสาหลักของโลกการเงินดิจิทัลในอนาคต
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว