การยอมรับ Bitcoin จะไม่ส่งผลกับการกู้เงิน IMF ของเอลซัลวาดอร์แน่นอน

เดิมทีทางเอลซัลวาดอร์ ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดใช้งานสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) ในการชำระหนี้ตามกฎหมาย นั้นมีแผนการที่จะกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ในจำนวนทั้งสิ้น 1.3 พันล้านดอลลาร์ แต่ทว่าแผนการกู้เงินของพวกเขาอาจจะสะดุดลงได้ เพราะทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศนั้นไม่เห็นด้วยต่อการทำให้ Bitcoin ถูกกฎหมายเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม Douglas Rodriguez ผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศเอลซัลวาดอร์ กลับไม่คิดเช่นนั้น โดยตัวเขาเองไม่เห็นว่าการนำ Bitcoin มาใช้เป็นสกุลเงินตามกฎหมายของประเทศจะเข้ามาขัดขวางแผนการกู้เงินจาก IMF แต่อย่างใด

อะไรทำให้ผู้ว่าการฯ มั่นใจว่าการยอมรับ Bitcoin จะไม่ส่งผลร้าย?

ไม่นานมานี้ Douglas Rodriguez ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเอลซัลวาดอร์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นที่ว่า “การยอมรับ Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์นั้นจะส่งผลกับแผนการกู้เงินจาก IMF หรือไม่?” ซึ่งท่านผู้ว่าการฯ ก็ระบุอย่างชัดเจนว่าทางทีมงานธนาคารกลางแห่งเอลซัลวาดอร์ไม่เห็นความเสี่ยงใด ๆ จากการมีอยู่ของกฎหมาย Bitcoin ของพวกเขา กับการเตรียมค้ำประกันเงินกู้ระยะยาวจาก IMF เลยแม้แต่น้อย

อันที่จริง ทางทีมธนาคารกลางยังได้อธิบายเอาไว้ว่า กฎหมาย Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ นั้นมีความเสี่ยงเพียงประการเดียวเท่านั้น นั้นก็คือ “ความเสี่ยงขาขึ้น” หรือ Upside Risk นั่นเอง โดยทาง Rodriguez ระบุว่าภาวะกระทิงของ BTC สามารถช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 9%

นอกจากนี้ทางธนาคารกลางแห่งเอลซัลวาดอร์ได้อธิบายกับ IMF เอาว่า “Bitcoin เป็นเพียงหนึ่งในวิธีการชำระเงิน” เท่านั้น

*ความเสี่ยงขาขึ้น หมายถึง สภาวะที่มีโอกาสจะได้รับผลกำไรจากการลงทุนสูงเกินกว่าที่คาดการณ์*

เรื่องนี้อาจส่งผลร้ายต่อเอลซัลวาดอร์มากกว่าที่คาด

แท้ที่จริงแล้วความไม่แน่นอนของผลการเจรจาร่วมกับทาง IMF ของเอลซัลวาดอร์ และการรีบเร่งนำ BTC มาใช้อย่างถูกกฎหมาย นั้นกำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยทั้งสองเหตุการณ์นั้นได้ทำให้ระดับความเชื่อมั่นที่เคยมีนั้นลดลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ความสั่นคลอนข้างต้นสามารถสะท้อนให้เห็นได้จากการที่พันธบัตรในมือของเอลซัลวาดอร์นั้นลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากการมาถึงของ "วันแห่ง Bitcoin" ในประเทศ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่าการมาของ Bitcoin อาจจะยังไม่หนทางที่ดีเท่าไหร่ของเอลซัลวาดอร์ มิหนำซ้ำยังทำให้การกู้เงินจาก IMF ยิ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะหากผลของข้อตกลงการกู้เงินจาก IMF ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาหวังแล้วล่ะก็ ความเชื่อมั่นของประเทศก็จะต้องลดลงไปอีกมากอย่างแน่นอน

และถึงแม้ Douglas Rodriguez จะมองว่ากฎหมาย Bitcoin นั้นไม่เกี่ยวอะไรกับการเจรจากับ IMF เลยก็ตาม แต่ทว่าทางเจ้าหน้าที่ IMF เอง ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์การยอมรับ Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ อย่างหนักหน่วง โดยพวกเขาเรียกการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ว่า "ทางลัดที่ไม่ฉลาด" ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อประเทศ เนื่องจากปัจจัยด้านความผันผวน และการฟอกเงิน ที่ถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงเชิงระบบที่อาจเกิดขึ้นจากการยอมรับ BTC เป็นเงินที่ถูกกฎหมายนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้วผลของเรื่องนี้จะออกมาในทิศทางใด เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด