การแฮ็ก Twitter ทำให้เราเห็นอีกข้อดีของ Crypto ที่เหนือกว่าเงินกระดาษ
คณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากอุตสาหกรรม Crypto เห็นพ้องต้องกันว่าการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน Crypto นั้น ง่ายกว่าคดีที่เกี่ยวกับสกุลเงินทั่วไป

คณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากอุตสาหกรรม Crypto เห็นพ้องต้องกันว่าการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงิน Crypto นั้น ง่ายกว่าคดีที่เกี่ยวกับสกุลเงินทั่วไป
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในอุตสาหกรรม Cryptocurrency ได้สังเกตว่าผู้คนกำลังหันมาสนใจและรับรู้ถึงการมีอยู่ของอุตสาหกรรม Crypto สำหรับสาธารณชน โดยสาเหตุมาจากความสำเร็จในการจับกุมผู้ที่แฮ็ก Twitter ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และนี่เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำ Blockchain มาใช้วิเคราะห์เหตุการณ์อย่างที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการแก้ไขอาชญากรรม
Twitter และการบังคับใช้กฎหมาย

Lana Schwartzman หัวหน้าเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของ Paxful หนึ่งใน Bitcoin Wallet ชื่อดัง ได้กล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ Twitter ถูกโจมตีไว้ว่า
“มันค่อนข้างน่าทึ่งมาก ในด้านของแนวทาวการแก้ปัญหาที่ต่างออกไปจากเดิม เพราะหากเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ในสมัยก่อนนั้น คุณจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วแบบนี้”

Jeff Horowitz หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของบริษัท Coinbase ก็ได้พูดเกี่ยวกับประเด็นนี้เช่นกันและเขาเองก็เห็นด้วยว่าอุตสาหกรรม Crypto นั้นกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรม หรือรูปแบบการทำงานสมัยก่อน
“สิ่งที่เราต้องสนใจในตอนนึ้คงไม่ใช่เรื่องอื่นแล้ว นอกเสียจากประเด็นที่ว่า อุตสาหกรรม crypto จะร่วมมือกับหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อติดตามคดีความในลักษณะนี้ได้อย่างไร”
ตลาด Crypto โตแบบรอบด้าน!

Jonathan Levin ผู้ร่วมก่อตั้ง Chainalysis ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยติดตามเส้นทางของ Bitcoin ที่ถูกหลอกด้วยข้อความจาก Twitter โดย Graham Clark ซึ่งมีอายุเพียง 17 ปี ได้ทำการเปรียบเทียบจำนวนเงินประมาณ 10 ล้านเหรียญที่ถูกนำมาฟอกผ่านอุตสาหกรรม Bitcoin ในแต่ละวันเข้ากับจำนวนเงินทั้งหมดที่มีการเคลื่อนไหวผ่านบล็อกเชนชนิดนี้ โดยเขาอธิบายเอาไว้ว่า
“แต่ละสัปดาห์ เงินมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์จะเคลื่อนไหวภายในระบบ Blockchain ของ Bitcoin ดังนั้นปริมาณ 10 จึงถือเป็นมูลค่าที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม Blockchain”
Levin นั้นได้ลงทุนลงแรงไปมากเพื่อทำให้ผู้คนนั้นมีความรู้เกี่ยวกับตลาดCrypto มากยิ่งขึ้น และเขาได้กล่าวว่า“การกระทำในครั้งนี้ไม่ใช่การมามัวตั้งข้อสังเกตว่า ผู้คนนั้นเข้าตลาด Crypto เมื่อไหร่ หรืออะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเข้ามา แต่สิ่งที่สำคัญคือเขาจะมีความรู้ด้านนี้อย่างแท้จริงได้อย่างไร” Levin กล่าวต่อว่า “การขาดแนวทางการกำกับดูแลเป็นอุปสรรคหลักสำหรับสถาบันการเงินที่ทำงานกับ Crypto”
Levin ยังพูดถึงเกี่ยวกับกลุ่ม Lazarus แฮ็กเกอร์ผู้เลื่องชื่อแดนโสมเหนือในฐานะตัวอย่างของการบังคับใช้กฎหมายที่มีการปรับตัวที่ดีขึ้นเพื่อให้มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีCrypto โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมากระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ทำการลงโทษชาวจีนสองคน และกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาฟอกเงิน Crypto ที่ถูกขโมยของกลุ่ม Lazarus