Crypto Fear and Greed Index คืออะไรและทำงานอย่างไร
ดัชนี้วัดความกลัวและความโลภหรือ Crypto Greed and Fear Index มักถูกนำมาใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาดเสมอ มันคืออะไรกันแน่?
![Photo 2022 04 01 09.12.50.jpeg](https://cdn2.cryptosiam.com?url=https://api.cryptosiam.com/assets/4b458709-65bc-48bc-8f06-61ba282242c2.jpeg&width=1610)
ดัชนี้วัดความกลัวและความโลภหรือ Crypto Greed and Fear Index มักถูกนำมาใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาดเสมอ มันคืออะไรกันแน่?
ดัชนี้วัดความกลัวและความโลภหรือ Crypto Greed and Fear Index มักถูกนำมาใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาดเสมอ มันคืออะไรกันแน่?
Crypto Greed and Fear Index นั้นถูกพัฒนาโดย CNNMoney ไว้ใช้สำหรับตลาดหุ้น CNN ที่ใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักที่เท่ากัน สำหรับตัวบ่งชี้ที่ใช้ตัวอย่างเช่น แต่ละตัวบ่งชี้จะถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 14.2%
ตัวชี้วัด 7 ตัวที่ใช้ในหุ้นนั้นได้แก่ 1) ความต้องการซื้อ junk bond 2) โมเมนตัมของตลาด 3) ความผันผวนของตลาด 4) สัญญา Put และ Call Options 5) อุปสงค์ในที่หลบภัย (safe-haven) 6) ความกว้างของราคาหุ้น และ 7) ความเข้มแข็งของราคาหุ้น ตัวชี้วัดเหล่านี้จะวัดองค์ประกอบต่าง ๆ ของพฤติกรรมตลาดหุ้นในขณะนั้น
ในการคำนวณดัชนีนี้ CNN จะพิจารณาว่าตัวบ่งชี้แต่ละตัวเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยมากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับค่าที่เบี่ยงเบนเป็นประจำ จากนั้นพวกเขาจะให้คะแนนในระดับ 0 – 100 โดยตัวชี้วัดจะถูกรวบรวมเพื่อสร้างดัชนีสุดท้าย ยิ่งมีคะแนนสูง นักประดิษฐ์ที่โลภก็ยิ่งมากขึ้นในขณะเดียวกัน
Crypto Fear and Greed Index คืออะไร?
ดัชนีความกลัวและความโลภใช้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาด โดยดัชนีนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดในขณะนี้มีสภาพเป็นตลาดช่วงขาขึ้นหรือขาลง และสร้างขึ้นจากอารมณ์ตรงข้ามสองอย่าง คือ ความกลัว และความโลภ
นักลงทุนอาจทำตัวไม่มีเหตุผลเมื่อสภาวะตลาดมีสภาพที่รุนแรง ตัวอย่างเช่น นักลงทุนต่างรู้สึกกลัวเมื่อตลาดตกต่ำและรู้สึกโลภเมื่อตลาดมีฟองสบู่ การเข้าใจอารมณ์ของนักลงทุนเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์ อย่างที่ Warren Buffett นักลงทุนชื่อดังได้กล่าวไว้ว่า "จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภและจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว"
Crypto Fear and Greed Index นั้นคำนวณอย่างไร?
Alternative.me ได้ปรับแนวทางของ CNN และพัฒนาดัชนีความกลัวและความโลภ สำหรับบิทคอยน์ ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานเหมือนกัน แต่มีตัวชี้วัดที่ใช้ต่างกัน โดยดัชนีนี้เป็นวิธีการที่มีศักยภาพในการระบุพฤติกรรมของนักลงทุนที่มีต่อบิทคอยน์และสามารถนำไปใช้กับสกุลเงินดิจิทัลอื่นโดยทั่วไปได้
โดย 0 บ่งชี้ถึงความกลัวอย่างยิ่งที่จะทำให้นักลงทุนมองว่าแนวโน้มของบิทคอยน์ เป็นช่วงขาลงที่มากเกินไป ส่วน 100 จะบ่งบอกถึงความโลภของนักลงทุน ดัชนีนี้สามารถใช้เป็นสัญญาณเพื่อทำเครื่องหมายด้านบนและด้านล่างของวัฏจักรตลาดของคริปโต
ดัชนีความกลัวและความโลภทางประวัติศาสตร์
ดัชนี Crypto Fear & Greed มีลักษณะหกตัวที่ใช้บ่งชี้ โดยตัวชี้วัดในดัชนีนี้สร้างขึ้นจากการผสมผสานของการวัดในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
1. ความผันผวน (Volatility) 25%
ความผันผวนนั้นจะเปรียบเทียบกับความผันผวนในปัจจุบันของบิทคอยน์ และ maximum drawdown กับมูลค่าเฉลี่ยในช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา เมื่อมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจบ่งชี้ว่าตลาดมีความกลัวที่สูง
2.โมเมนตัมของตลาด/ปริมาณการซื้อขาย 25%
โมเมนตัมของตลาดนั้นจะรวมปริมาณการซื้อขายตลาดในปัจจุบันของบิทคอยน์ และโมเมนตัมของตลาด และเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา หากโมเมนตัมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ก็อาจบ่งบอกถึงตลาดช่วงขาขึ้น
3.โซเชียลมีเดีย 15%
ตัวบ่งชี้โซเชียลมีเดียนั้นใช้การวิเคราะห์ความรู้สึกโดยคำนวณจากการถูกใจ โพสต์ แฮชแท็กจาก Twitter หากการโต้ตอบนั้นวัดได้มากอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ ตลาดก็อาจจะมีความโลภที่สูง
4. Dominance (10%)
ตัวเลข Dominance จะวัดมูลค่าตลาดที่บิทคอยน์ใช้จากส่วนแบ่งของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ยิ่งการครอบงำของบิทคอยน์ยิ่งใหญ่เพียงใด การเก็งกำไรก็น้อยลงสำหรับ altcoins ซึ่งอาจบ่งบอกถึงภาวะตลาดช่วงขาลงในหมู่นักลงทุน
5. แนวโน้ม (10%)
แนวโน้มจะใช้พิจารณาเทรนดืการค้นหาบน Google สำหรับคำที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ โดยจะพิจารณาปริมาณการค้นหาและคำแนะนำจากเว็บไซต์ยอดนิยม
6. แบบสำรวจ (15%) - ปัจจุบันได้หยุดใช้ชั่วคราว
การสำรวจรายสัปดาห์จะดำเนินการบนแพลตฟอร์มการเลือกตั้งเพื่อดูว่าบุคคลต่าง ๆ นั้นคิดอย่างไรเกี่ยวกับตลาด
ตัวบ่งชี้แต่ละตัวที่กล่าวไปในข้างต้นนั้นประกอบด้วยคะแนนจากความผันผวนและโมเมนตัมของตลาด ในขณะที่ส่วนที่เหลือนั้นมาจากคะแนนเชิงคุณภาพ แม้ว่า Crypto Fear and Greed Index ของบิทคอยน์จะแตกต่างจากดัชนี Fear & Greed แบบเดิม แต่ดัชนีทั้งสองก็มีหน้าที่วัดอารมณ์ของนักลงทุนต่อตลาดโดยพื้นฐาน โดยนักลงทุนสามารถใช้ดัชนีนี้เพื่อให้ทราบว่าขณะนี้ตลาดเป็นอย่างไร
ตลาดตราสารทุนและตลาดเงินดิจิตอลนั้นมีความผันผวน และไม่มีมาตรการใดที่สามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ นักลงทุนจึงควรใช้การวัดตลาดแบบองค์รวมในการตัดสินใจ
ดัชนีความกลัวและความโลภไม่ควรเป็นตัวบ่งชี้เดียวที่ใช้เพื่อทำการสรุปทิศทางของตลาด โดย John Maynard Keynes นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงก็เคยกล่าวไว้ว่า "ตลาดหุ้นสามารถอยู่อย่างไร้เหตุผลได้นานกว่าที่คุณเข้าใจได้"