General

Crypto Fear and Greed Index คืออะไรและทำงานอย่างไร

Photo 2022 04 01 09.12.50.jpeg

ดัชนี้วัดความกลัวและความโลภหรือ Crypto Greed and Fear Index มักถูกนำมาใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาดเสมอ มันคืออะไรกันแน่?

ดัชนี้วัดความกลัวและความโลภหรือ Crypto Greed and Fear Index มักถูกนำมาใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาดเสมอ มันคืออะไรกันแน่?

Crypto Greed and Fear Index นั้นถูกพัฒนาโดย CNNMoney ไว้ใช้สำหรับตลาดหุ้น CNN ที่ใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักที่เท่ากัน สำหรับตัวบ่งชี้ที่ใช้ตัวอย่างเช่น แต่ละตัวบ่งชี้จะถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 14.2%

ตัวชี้วัด 7 ตัวที่ใช้ในหุ้นนั้นได้แก่ 1) ความต้องการซื้อ junk bond 2) โมเมนตัมของตลาด 3) ความผันผวนของตลาด 4) สัญญา Put และ Call Options 5) อุปสงค์ในที่หลบภัย (safe-haven) 6) ความกว้างของราคาหุ้น และ 7) ความเข้มแข็งของราคาหุ้น ตัวชี้วัดเหล่านี้จะวัดองค์ประกอบต่าง ๆ ของพฤติกรรมตลาดหุ้นในขณะนั้น

ในการคำนวณดัชนีนี้ CNN จะพิจารณาว่าตัวบ่งชี้แต่ละตัวเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยมากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับค่าที่เบี่ยงเบนเป็นประจำ จากนั้นพวกเขาจะให้คะแนนในระดับ 0 – 100 โดยตัวชี้วัดจะถูกรวบรวมเพื่อสร้างดัชนีสุดท้าย ยิ่งมีคะแนนสูง นักประดิษฐ์ที่โลภก็ยิ่งมากขึ้นในขณะเดียวกัน

Crypto Fear and Greed Index คืออะไร?

ดัชนีความกลัวและความโลภใช้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาด โดยดัชนีนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดในขณะนี้มีสภาพเป็นตลาดช่วงขาขึ้นหรือขาลง และสร้างขึ้นจากอารมณ์ตรงข้ามสองอย่าง คือ ความกลัว และความโลภ

นักลงทุนอาจทำตัวไม่มีเหตุผลเมื่อสภาวะตลาดมีสภาพที่รุนแรง ตัวอย่างเช่น นักลงทุนต่างรู้สึกกลัวเมื่อตลาดตกต่ำและรู้สึกโลภเมื่อตลาดมีฟองสบู่ การเข้าใจอารมณ์ของนักลงทุนเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์ อย่างที่ Warren Buffett นักลงทุนชื่อดังได้กล่าวไว้ว่า "จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภและจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว"

Crypto Fear and Greed Index นั้นคำนวณอย่างไร?

Alternative.me ได้ปรับแนวทางของ CNN และพัฒนาดัชนีความกลัวและความโลภ สำหรับบิทคอยน์ ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานเหมือนกัน แต่มีตัวชี้วัดที่ใช้ต่างกัน โดยดัชนีนี้เป็นวิธีการที่มีศักยภาพในการระบุพฤติกรรมของนักลงทุนที่มีต่อบิทคอยน์และสามารถนำไปใช้กับสกุลเงินดิจิทัลอื่นโดยทั่วไปได้

โดย 0 บ่งชี้ถึงความกลัวอย่างยิ่งที่จะทำให้นักลงทุนมองว่าแนวโน้มของบิทคอยน์ เป็นช่วงขาลงที่มากเกินไป ส่วน 100 จะบ่งบอกถึงความโลภของนักลงทุน ดัชนีนี้สามารถใช้เป็นสัญญาณเพื่อทำเครื่องหมายด้านบนและด้านล่างของวัฏจักรตลาดของคริปโต

ดัชนีความกลัวและความโลภทางประวัติศาสตร์

ดัชนี Crypto Fear & Greed มีลักษณะหกตัวที่ใช้บ่งชี้ โดยตัวชี้วัดในดัชนีนี้สร้างขึ้นจากการผสมผสานของการวัดในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

1. ความผันผวน (Volatility) 25%

ความผันผวนนั้นจะเปรียบเทียบกับความผันผวนในปัจจุบันของบิทคอยน์ และ maximum drawdown กับมูลค่าเฉลี่ยในช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา เมื่อมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจบ่งชี้ว่าตลาดมีความกลัวที่สูง

2.โมเมนตัมของตลาด/ปริมาณการซื้อขาย 25%

โมเมนตัมของตลาดนั้นจะรวมปริมาณการซื้อขายตลาดในปัจจุบันของบิทคอยน์ และโมเมนตัมของตลาด และเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา หากโมเมนตัมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ก็อาจบ่งบอกถึงตลาดช่วงขาขึ้น

3.โซเชียลมีเดีย 15%

ตัวบ่งชี้โซเชียลมีเดียนั้นใช้การวิเคราะห์ความรู้สึกโดยคำนวณจากการถูกใจ โพสต์ แฮชแท็กจาก Twitter หากการโต้ตอบนั้นวัดได้มากอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ ตลาดก็อาจจะมีความโลภที่สูง

4. Dominance  (10%)

ตัวเลข Dominance จะวัดมูลค่าตลาดที่บิทคอยน์ใช้จากส่วนแบ่งของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ยิ่งการครอบงำของบิทคอยน์ยิ่งใหญ่เพียงใด การเก็งกำไรก็น้อยลงสำหรับ altcoins ซึ่งอาจบ่งบอกถึงภาวะตลาดช่วงขาลงในหมู่นักลงทุน

5. แนวโน้ม (10%)

แนวโน้มจะใช้พิจารณาเทรนดืการค้นหาบน Google สำหรับคำที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ โดยจะพิจารณาปริมาณการค้นหาและคำแนะนำจากเว็บไซต์ยอดนิยม

6. แบบสำรวจ (15%) - ปัจจุบันได้หยุดใช้ชั่วคราว

การสำรวจรายสัปดาห์จะดำเนินการบนแพลตฟอร์มการเลือกตั้งเพื่อดูว่าบุคคลต่าง ๆ นั้นคิดอย่างไรเกี่ยวกับตลาด

ตัวบ่งชี้แต่ละตัวที่กล่าวไปในข้างต้นนั้นประกอบด้วยคะแนนจากความผันผวนและโมเมนตัมของตลาด ในขณะที่ส่วนที่เหลือนั้นมาจากคะแนนเชิงคุณภาพ แม้ว่า Crypto Fear and Greed Index ของบิทคอยน์จะแตกต่างจากดัชนี Fear & Greed แบบเดิม แต่ดัชนีทั้งสองก็มีหน้าที่วัดอารมณ์ของนักลงทุนต่อตลาดโดยพื้นฐาน โดยนักลงทุนสามารถใช้ดัชนีนี้เพื่อให้ทราบว่าขณะนี้ตลาดเป็นอย่างไร

ตลาดตราสารทุนและตลาดเงินดิจิตอลนั้นมีความผันผวน และไม่มีมาตรการใดที่สามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ นักลงทุนจึงควรใช้การวัดตลาดแบบองค์รวมในการตัดสินใจ

ดัชนีความกลัวและความโลภไม่ควรเป็นตัวบ่งชี้เดียวที่ใช้เพื่อทำการสรุปทิศทางของตลาด โดย John Maynard Keynes นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงก็เคยกล่าวไว้ว่า "ตลาดหุ้นสามารถอยู่อย่างไร้เหตุผลได้นานกว่าที่คุณเข้าใจได้"

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Bitcoin พลิกเกม! MicroStrategy กำไรพุ่งทะลุเพดาน แซงหน้า Apple, Amazon
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์