Blockchain

จีนค้นหา NFT มากเป็นเบอร์ 1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Google China.jpg

แม้รัฐบาลจะพยายามกีดกันการใช้งาน NFT มากเพียงใด แต่ใครล่ะจะไปเชื่อว่า ประเทศจีนนั้นยังคงครอบครองอันดับที่ 1 ใน Google Search Trend ท่ามกลางเหล่าประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมดสำหรับการค้นหา NFT

ข้อมูลล่าสุดของ Google Trends ได้จัดอันดับให้สาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีความสนใจสูงสุดสำหรับการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ Non-Fungible Token (NFT) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้จะมีข่าวแว่วมาว่าทางการแห่งแดนมังกรนั้นกำลังพยายามกีดกันนวัตกรรมทางดิจิทัลประเภทนี้อยู่ก็ตาม

การค้นหา NFT มากเป็นประวัติการณ์

จากข้อมูลระบุว่าทาง Google Trends ได้ให้คะแนนประเทศจีนเกี่ยวกับหัวข้อการค้นหา NFT เอาไว้สูงถึง 100 คะแนน ซึ่งมันได้แสดงให้เห็นถึงระดับความสนใจสูงสุดจากผู้ใช้ Search Engine ของ Google นั่นเอง

ทั้งนี้ แม้จีนจะมีคำแนนนำโด่ดมาเป็นเบอร์ 1 แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็มีความสนใจในโทเคนเปลี่ยนแปลงไม่ได้เหล่านี้เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเช่นเดียวกัน โดยข้อมูลจาก Google Trends ยังเปิดเผยว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก อย่าง สิงคโปร์ ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ นั้นก็ติดอันดับ 5 อันดับแรกของประเทศที่มีความสนใจใน NFT มากที่สุด ในหมู่ทุกประเทศทั่วทั้งโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนในเราเห็นเป็นนัย ๆ ว่า ความสนใจที่ชาวจีนนั้นมีต่อ NFT นั้นอยู่ในระดับที่สูงมากเพียงใด

ในทำนองเดียวกัน ประเด็นการค้นหาถึงคำว่า NFT ยังแสดงความคล้ายคลึงกันอย่างมากกับการค้นหาถึงแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT รายต่าง ๆ เช่น OpenSea ซึ่งมหาอำนาจยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียอย่างจีนก็ยังติดอันดับท็อปสำหรับการค้นหาคำว่า OpenSea และ Rarible มากที่สุด อีกด้วย

การแบนของภาครัฐ กับความสนใจของประชาชน

ระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัลในประเทศจีนนั้นมีความ “ไม่เป็นมิตร” อย่างมาก สิ่งนี้สะท้อนได้จากการไล่ปราบปรามด้านกฎระเบียบจากทั้งหน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานระดับภูมิภาค โดยทางการแดนมังกรได้ลงดาบกับอุตสาหกรรมคริปโทขั้นแรกด้วยการสั่งห้ามการขุด Bitcoin เมื่อต้นปีนี้ ที่พวกเขาอ้างความชอบธรรมในการแบนจากอัตราการใช้พลังงานที่มากเกินไปในการดำเนินการสร้างโทเค็น เท่านั้นยังไม่พอ เพราะต่อมาทางธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBoC) เองก็ได้สั่งห้ามการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล โดยมีคำแนะนำที่เข้มงวดกับสถาบันการเงินที่ไม่อนุญาตให้ทำธุรกรรมดังกล่าว

หลังจากปราบปราบเหล่านี้ เหล่ากระดารเทรดคริปโทมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น Huobi Global และ Binance ก็ได้หยุดการดำเนินการในประเทศนี้ทันที และนั้นให้บีบให้เหล่าประชากรชาวจีนผู้เชื่อมั่นในคริปโทมีช่องทางเพียงเล็กน้อยในการเปิดรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอุตสาหกรรมนี้

ทั้งนี้ การที่ Google Trends ได้ชี้ให้เห็นว่าจีนนั้นมีความสนใจใน NFT ในเอเชียแปซิฟิกมากเพียงใด มันกำลังบอกว่าเหล่านักลงทุนชาวจีนกำลังสำรวจลู่ทางอื่นเพื่อลงทุนหารายได้เสริมอยู่ และไม่อยากที่จะ “ตกรถ” หรือตามไม่ทันกระแสโลกนั่นเอง ท้ายที่สุดเราทั้งหลายก็ต้องมาติดตามกันต่อว่าทางการจีนนั้นจะแบนทางเลือกทางใหม่ของประชาชนทางนี้อีกครั้งหรือไม่

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีมูลค่าการซื้อขายคริปโตในประเทศไทย (15/04/24)