เคนยาจะเปลี่ยนเงินสำรองมาเป็นบิทคอยน์จริงหรือ?
Patrick Njoroge ผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศเคนยาได้ออกมาพูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนเงินทุนสำรองของเคนยามาเป็นบิทคอยน์เอาไว้ว่า เป็นเรื่องที่บ้าเอามาก ๆ
Patrick Njoroge ผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศเคนยาได้ออกมาพูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนเงินทุนสำรองของเคนยามาเป็นบิทคอยน์เอาไว้ว่า เป็นเรื่องที่บ้าเอามาก ๆ
Patrick Njoroge ผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศเคนยาได้ออกมาพูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนเงินทุนสำรองของเคนยามาเป็นบิทคอยน์เอาไว้ว่า เป็นเรื่องที่บ้าเอามาก ๆ
มุมมองเกี่ยวกับบิทคอยน์
นอกจากนั้นเขาได้กล่าวว่า เขาคงจะเสียสติไปแล้วแน่ ๆ หากเขาคิดแบบนั้นจริง ๆ อีกทั้งการคิดแบบนี้ยังมีความเสี่ยงที่เขาจะต้องเจอกับการติดคุกติดตะรางอีก โดยเขามองว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่อย่างบิทคอยน์ไม่ได้มีความผันผวนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเป็นเหรียญที่แก้ปัญหาทางด้านการเงินที่เป็นอยู่ได้
แม้ว่าทางผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศเคนยาจะมีการทำงานวิจัยที่ระบุว่า ประชาชนชาวเคนยาสามารถที่จะทำการลงทุนหรือชำระเงินด้วยเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ด้วยรูปแบบของ peer-to-peer อย่างบริษัท Paxful ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า มีเงินสะพัดในการซื้อขายผ่านบริษัทมากกว่า $125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022
ยังไม่มั่นใจในระบบ
อย่างไรก็ตามเขาได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซี่ในช่วงที่ผ่านมา โดยเขาได้ตั้งคำถามในเชิงสงสัยเกี่ยวกับประโยชน์ของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศเคนยาว่า ในระบบเศรษฐกิจของประเทศเคนยานั้น พวกเรากำลังแก้ปัญหากับเรื่องอะไรอยู่ แล้วการแก้ปัญหาทำให้ผู้คนมียานพาหนะขับไปมาได้หรือไม่ แล้วทำให้พวกเขาสามารถชำระเงินหรือทำธุรกรรมได้สะดวกรวดเร็วหรือไม่ คำตอบก็คือเปล่าเลย
และคำถามที่สำคัญก็คือ แล้วเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่มันมีความปลอดภัยกว่าการฝากเงินในบัญชีธนาคารหรือไม่ คำตอบก็คือไม่อีก เขาเข้าใจดีว่าคนส่วนใหญ่เจอแรงกดดันทางการเงินจนอาจมีความคิดที่จะทำให้เคนยาเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบิทคอยน์ไปเลย