Bitwise ย้ำเป้าราคา Bitcoin ที่ $200,000 ภายในปีนี้ แม้สงครามการค้าปะทุรุนแรงขึ้น
ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบันอย่าง Bitwise ยังคงเชื่อมั่นว่า Bitcoin จะสามารถกลับขึ้นไปแตะระดับราคา $200,000 ได้ภายในปีนี้

ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบันอย่าง Bitwise ยังคงเชื่อมั่นว่า Bitcoin จะสามารถกลับขึ้นไปแตะระดับราคา $200,000 ได้ภายในปีนี้
Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Bitwise ระบุผ่านบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 9 เมษายนว่า “ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Bitwise เคยคาดการณ์ว่า Bitcoin จะปิดปีที่ระดับ $200,000 และผมยังคงเชื่อว่าโอกาสนั้นยังไม่หายไปไหน”
Hougan ชี้ว่า การดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดี Donald Trump ที่มีเป้าหมายลดค่าเงินดอลลาร์ อาจกลายเป็นแรงหนุนต่อ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีในระยะยาว “รัฐบาลชุดนี้ต้องการให้ดอลลาร์อ่อนค่า แม้ต้องแลกกับการสูญเสียสถานะสกุลเงินสำรองของโลก” เขาระบุ
ดอลลาร์อ่อนค่าอาจเป็นสัญญาณบวกสำหรับ Bitcoin
Hougan อ้างอิงสุนทรพจน์ของ Steve Miran ประธานคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 7 เมษายน ซึ่งวิพากษ์สถานะของเงินดอลลาร์ว่าเป็นต้นตอของ “ความบิดเบี้ยวเชิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดเยื้อ” และ “การขาดดุลการค้าอย่างไม่ยั่งยืน” ซึ่งบั่นทอนภาคการผลิตของสหรัฐฯ อย่างหนัก
Hougan ระบุว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์จะส่งผลเชิงบวกต่อ Bitcoin ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยอิงจากข้อมูลของดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ที่แสดงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างค่าเงินดอลลาร์และราคาของ Bitcoin
“ดอลลาร์ลง เท่ากับ Bitcoin ขึ้น” Hougan กล่าว “และผมคาดว่ารูปแบบนี้จะยังดำเนินต่อไป”
จากข้อมูลของ TradingView ดัชนี DXY ลดลงมากกว่า 7% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันจากนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ
Bitcoin อาจมีบทบาทในระบบการเงินโลกที่กระจัดกระจายมากขึ้น
ในมุมมองระยะยาว Hougan ชี้ว่า ความเปลี่ยนแปลงต่อระบบสกุลเงินสำรองของโลกอาจเปิดทางให้สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง Bitcoin และทองคำเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น
“รัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ใช้ดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศก็เพราะความมั่นคงของมัน แต่เมื่อความมั่นคงนั้นเริ่มถูกตั้งคำถาม พวกเขาจำเป็นต้องหาทางเลือกใหม่”
Hougan ทิ้งท้ายว่า โลกอาจกำลังเคลื่อนจากระบบสกุลเงินสำรองแบบสินทรัพย์เดียว ไปสู่ระบบที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีสินทรัพย์ที่มีคุณลักษณะ ‘ผลิตเพิ่มได้ยาก’ อย่าง Bitcoin และทองคำเข้ามามีบทบาทสำคัญ
ก่อนหน้านี้ VanEck รายงานว่า จีนและรัสเซียเริ่มมีการชำระราคาพลังงานบางส่วนด้วย Bitcoin ท่ามกลางการทวีความรุนแรงของสงครามการค้าภายใต้รัฐบาล Trump
Bitcoin อาจคือสินทรัพย์แรกที่กลับตัว
Will Clemente เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า “Bitcoin จะเป็นม้าตัวที่เร็วที่สุดหลังจากจบรอบการปรับฐานครั้งนี้”
“มันสะท้อนสภาพคล่องได้อย่างแท้จริง และไม่มีปัจจัยเรื่องผลประกอบการมาเกี่ยวข้อง — หากมีสิ่งใดที่ส่งผลต่อ Bitcoin ในเวลานี้ นั่นคือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มที่ประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน กำลังหันกลับไปพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ซึ่งกลับเป็นผลบวกต่อ Bitcoin ด้วยซ้ำ” เขากล่าวเสริม
ปัจจุบัน ราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.76% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แตะระดับ $81,700 หลังจากที่เคยปรับฐานลงมาแล้วประมาณ 32% จากจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับการย่อตัวของตลาดขาขึ้นรอบก่อน ๆ
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว