นักวิเคราะห์เตือน! แนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin ในไตรมาส 3 ยังไม่ชัดเจน แม้ราคาทำจุดสูงสุดใหม่
ไตรมาส 3 ของปีมักเป็นช่วงที่ Bitcoin ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้แย่ที่สุด ขณะที่นักวิเคราะห์ยังถกเถียงถึงแนวโน้มของราคาในช่วงต่อไป

ไตรมาส 3 ของปีมักเป็นช่วงที่ Bitcoin ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้แย่ที่สุด ขณะที่นักวิเคราะห์ยังถกเถียงถึงแนวโน้มของราคาในช่วงต่อไป
จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ Bitcoin ที่แตะระดับ 111,970 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ได้จุดประกายความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ลงทุนคริปโตอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายยังไม่มั่นใจว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในไตรมาสที่ 3 ของปีหรือไม่
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ระบุในรายงานตลาดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมว่า “ไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้จะเป็นตัวชี้ชะตาว่า การพุ่งขึ้นของ Bitcoin ครั้งล่าสุดเป็นเพียงจุดสูงสุดระยะสั้น หรือเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นที่รุนแรงกว่านี้ในไตรมาส 3”
การพักฐานอาจเป็นผลดีต่อแนวโน้มระยะยาว
แม้ราคาจะทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Bitfinex ชี้ว่าการปรับขึ้นของราคาเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอในการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อไป “ช่วงเวลาของการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หรือการย่อตัวเล็กน้อย อาจเป็นสิ่งที่ ‘ดีต่อสุขภาพของตลาด’ และช่วยสร้างฐานที่มั่นคงสำหรับการพุ่งขึ้นในรอบถัดไป”
ในอดีต Bitcoin มักใช้เวลาพักฐานระยะหนึ่งหลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ โดยในเดือนมีนาคม 2024 Bitcoin เคยแตะระดับสูงสุดที่ 73,679 ดอลลาร์ ก่อนจะแกว่งตัวในกรอบราว 20,000 ดอลลาร์ จนถึงช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน
ข้อมูลจาก CoinGlass เผยว่า ไตรมาสที่ 3 ของปี นับเป็นไตรมาสที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยแย่ที่สุดของ Bitcoin ตั้งแต่ปี 2013 โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 6.03% ส่วนไตรมาสที่ 2 มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าที่ 27.25%
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ระบุเพิ่มเติมอีกว่า Bitcoin กำลังเข้าสู่ “ช่วงเคลื่อนไหวในกรอบแคบระยะสั้น” โดยในช่วง 30 วันที่ผ่านมา นักลงทุนกลุ่มถือครองระยะสั้น (ถือครองต่ำกว่า 155 วัน) ได้ทยอยขายทำกำไรไปแล้วเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลจาก Bitbo ยังระบุว่า นักลงทุนระยะสั้นได้กำไรเฉลี่ย 13.72% โดยราคาที่ผู้ถือครองกลุ่มนี้ซื้อมาคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 95,781 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาตลาด ณ เวลาที่เผยแพร่ข่าวอยู่ที่ 108,839 ดอลลาร์ รวมแล้วมีกำไรที่ขายไปแล้วกว่า 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์
ตลาดเริ่มมีสัญญาณความมั่นคงมากขึ้น
แม้แรงขายจากนักลงทุนระยะสั้นจะเพิ่มขึ้น แต่ Bitfinex ชี้ว่ายังมี “ความต้องการระยะยาว” รองรับอยู่ โดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของปริมาณการซื้อขายใน ETF, ความผันผวนที่ต่ำ และค่าพรีเมียมในตลาด Spot ของ Bitcoin ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณว่า “ตลาดมีแนวโน้มจะเดินหน้าต่อไป เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคมีความชัดเจนยิ่งขึ้น”
ในวันที่ 23 พฤษภาคม วันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ รวมแล้วราว 2.75 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนต่างจับตาการประชุมครั้งถัดไปของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน เพื่อหาสัญญาณชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน โดยก่อนหน้านี้ Fed มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ถึง 4.50% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
การทำจุดสูงสุดใหม่ของ Bitcoin เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์คริปโตบางรายเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดย Cory Klippsten CEO ของ Swan Bitcoin เคยกล่าวเมื่อวันที่ 7 มีนาคมว่า มีโอกาส 50% ที่ Bitcoin จะทำจุดสูงสุดใหม่ก่อนถึงเดือนมิถุนายน ขณะที่ Jamie Coutts หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์คริปโตของ Real Vision ก็เคยคาดว่า Bitcoin อาจแตะจุดสูงสุดใหม่ก่อนสิ้นสุดไตรมาส 2 เช่นกัน
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว