สรุปดราม่า Binance! มี FUD อะไรกันใน 2-3 วันที่ผ่านมา?
'มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับ Binance’ กลายมาเป็นประเด็นร้อนในโลกคริปโต เราจึงมาสรุปทุก FUD ที่ออกมาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยังคงเชื่อมั่นได้อยู่หรือไม่?
'มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับ Binance’ กลายมาเป็นประเด็นร้อนในโลกคริปโต เราจึงมาสรุปทุก FUD ที่ออกมาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยังคงเชื่อมั่นได้อยู่หรือไม่?
Table of contents
- 1. Proof of Reserve เหมือนจะมีอะไรไม่ถูกต้อง?
- 2. สหรัฐฯ อาจกำลังเล็งหัวผบห. Binance ที่รวมไปถึง CZ
- 3. ผู้ใช้ถอนเงินออกจาก Binance มากผิดปกติ
- 4. ราคา BNB ดิ่งหนัก ในวันที่ตลาดบวกทั้งกระดาน
- 5. BUSD ทำท่าเหมือนจะหลุด Peg
- 6. ประกาศปิดการถอน USDC บน Binance
- 7. นิสัยไม่ดีหลายๆ อย่างของ Binance เอง
- สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
ไม่กี่วันที่ผ่านมาคงเห็นกันแล้วว่า… มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับ ‘Binance’
‘Binance’ เว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก นำโดย ‘CZ’ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2017 แล้วที่ว่า 'อะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับ Binance' มันคืออะไร? เรามาสรุปเรื่องคร่าวๆ กัน
CryptoSiamNews https://twitter.com/CryptoSiamNews/status/1602577553398824962
เริ่มต้นจากไม่กี่วันมานี้ที่ทุกสายตากำลังจับจ้องไปเว็บเทรดดังของเรา หลังจากเกิดข่าวร้ายขึ้นมาต่างๆ นานา จนทำให้หลายต่อหลายคนมองว่า หรือ Binance จะต้องปิดฝาโลงกลายเป็น ‘FTX รายต่อไป’ จริงๆ (โดยเฉพาะเหตุการณ์นี้เพิ่งจะเกิดเรื่อง FTX มาได้แค่เดือนเดียว)
*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยืนยัน หรือเป็น FUD ใดๆ ทั้งสิ้น
1. Proof of Reserve เหมือนจะมีอะไรไม่ถูกต้อง?
หลังจากประเด็น FTX ผ่านพ้นไป เว็บเทรดต่างๆ ก็พากันเปิดเผยข้อมูลสินทรัพย์สำรองของตนกันยกใหญ่ ซึ่งแน่นอน Binance ก็ไม่เว้น
อ่านข่าวต่อ - ผิดคาด! นลท.แห่ถอนสินทรัพย์ออกจาก Binance หลังปล่อย Proof of Reserves
โดย Binance ได้ไปใช้บริการของ Mazars ที่เป็นสำนักตรวจสอบบัญชีแถวหน้าของโลก ให้มาตรวจสอบสินทรัพย์ของทาง Binance ว่าจริงๆ แล้ว Binance มีสินทรัพย์เพียงพอให้ผู้ใช้งานถอนออกมารึเปล่าถ้าหากว่าสุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้น
ซึ่งก็ออกมาเป็นรายงาน Proof of reserve วันที่ 7 ธันวาคมของ โดยระบุว่า Binance มีสินทรัพย์สำรองอยู่ที่ 97% ของรายการสินทรัพย์ที่ระบุ
แต่พอทีนี้ทั้งสื่อทั้งกูรูต่างๆ ที่พอได้ขุดคุ้ยลงไปก็เหมือนจะเห็นอะไรบางอย่าง บ้างก็ว่าตัวเลขที่เปิดเผยออกมาไม่ได้สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารเงิน, ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าจะปลอดภัย หรือการแสดงตัวเลขของ Collateral แทนที่จะเป็นตัวเลขของ Reserve ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ FTX เคยทำ
คนที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลนี้ก็ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหน แต่เป็น 1. John Reed Stark อดีตนักกฎหมายของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ที่เคยทำงานให้สำนักงานมา 18 ปี และ 2. Jesse Powell ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Kraken เว็บเทรดคริปโตแถวหน้ายุคบุกเบิก
jespow https://twitter.com/jespow/status/1601785215646461952
เอาเป็นว่าเรื่อง Proof of reserve สรุปเลยหลักๆ ก็จะเกี่ยวกับรายงาน Proof of reserve ของ Binance มันไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันอะไรได้เลยว่า Binance มีสินทรัพย์สำรองอยู่ในระดับที่เพียงพอจริง และยังไม่ยืนยันอีกว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นนะ ถ้าหากเกิดการ ‘Bank run’ หรือการที่ผู้ใช้งานแห่ถอนเงินออกจนถึงระดับวิกฤต
2. สหรัฐฯ อาจกำลังเล็งหัวผบห. Binance ที่รวมไปถึง CZ
ประเด็นนี้ก็เริ่มต้นจากสกุ๊ปพิเศษของ Reuters เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่เปิดเผยว่าแหล่งข่าวของ Reuters ในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แอบมาบอกว่า ‘รัฐบาลกำลังเล็งที่จะดำเนินคดีกับแก๊งผู้บริหาร Binance’ ที่รวมไปถึงซีอีโออย่าง CZ เองด้วย
อ่านข่าวต่อ - ตีกันแล้ว! Binance ทวีตโต้ Reuters หลังถูกกล่าวหาว่า CZ พร้อมผบห. กำลังจะถูกดำเนินคดี
คือจริงๆ แล้วคดีความนี้มันก็ยืดยาวมาตั้งแต่ปี 2018 แล้วแหละ หลักๆ ก็อย่างเช่นเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต, กระทำผิดกฎหมายฟอกเงิน, กระทำผิดกฎหมายคว่ำบารต เป็นต้น แต่ก็ยังไม่มีการตัดสินใจดำเนินคดีเกิดขึ้น
โดยสิ่งที่ Reuters กำลังบอกในครั้งนี้ก็คือการออกมาบอกว่า ‘ตอนนี้สหรัฐฯ มีหลักฐานครบแล้วนะ’ และกำลังจ้องจะเล่นคุณเร็วๆ นี้นี่แหละ
3. ผู้ใช้ถอนเงินออกจาก Binance มากผิดปกติ
จริงๆ ข้อนี้ก็สืบเนื่องมาจาก 2 ข้อก่อนหน้านั่นแหละ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลกว่าเมื่อมีข่าวอะไรร้ายๆ เกี่ยวกับ Exchange ออกมาคนก็อยากจะถอนเงินออกมาเก็บไว้ที่อื่นก่อนเผื่อเกิดการห้ามถอนเงินเกิดขึ้นอีก
โดยเฉพาะเพิ่งจากผ่านรอบ FTX มาแบบสดๆ ร้อนๆ อีกด้วย…
อ้างอิงจาก Nansen ที่เป็นเว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลคริปโต ก็ระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 13 ธันวาคม มีผู้ถอนเงินออกจาก Binance ไปแล้วถึง 8 พันล้านดอลลาร์
nansen_ai https://twitter.com/nansen_ai/status/1602677725218492416
โดยมีเงินเข้าเพียง 5 พันล้านดอลลาร์ นั่นก็หมายความว่าเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเงินที่ฝากอยู่ใน Binance หายไปถึง 3 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะมาก ซึ่งในสถานการณ์ปกติตัวเลขของ 2 ฝั่งก็ควรที่จะเท่าๆ กัน
4. ราคา BNB ดิ่งหนัก ในวันที่ตลาดบวกทั้งกระดาน
ในวันที่ 13 ธันวาคม วันแรกที่เกิดเรื่อง ราคา BNB ที่เป็นเหรียญหลักของ Binance ดิ่งลงไปสูงสุดเกือบถึง -10% ภายในวันเดียว
อ่านข่าวต่อ - จับตา! ราคาเหรียญ BNB และ BUSD ลดต่ำลงมาอย่างมีนัยสำคัญ
พร้อมกับถ้ามาลองเปิดกราฟ BNB ดู ก็จะพบว่าราคาเหรียญดิ่งลงมาแล้วถึง 11-12% ตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 13 ธันวาคมที่ผ่านมา จากพื้นที่ราว 290 ดอลลาร์ ลงมาสู่ 255 ดอลลาร์ภายในระยะเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น
ตรงกันข้าม ถ้าลองมามองในช่วงเวลาเดียวกันก็จะพบว่าพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ราคาบวกขึ้นไปถึงราว 5-6% ขึ้นจากพื้นที่ราว 17,000 ดอลลาร์ไปสู่ 18,000 ดอลลาร์ให้ชาว BTC ได้ชื่นใจกัน แน่นอนว่าเมื่อ Bitcoin บวกเยอะขนาดนี้ทั้งตลาดก็ได้รับอานิสงค์ราคาบวกขึ้นกันไปด้วย… ยกเว้นก็แต่ BNB ที่เป็นแกะดำดิ่งลงมาเฉียดเปอร์เซ็นต์เลข 2 หลัก
5. BUSD ทำท่าเหมือนจะหลุด Peg
ช่วงที่ประเด็นพีคๆ Stablecoin หลักของ Binance อย่าง BUSD ก็มีสวิงหลุด 1 ดอลลาร์ให้เสียวกันบ้าง โดยถ้าหากดูจากกราฟของ Coinmarketcap ก็จะพบว่าราคามีช่วงที่หลุดลงมาสู่พื้นที่ 0.9991 ดอลลาร์ ให้เห็นบ้าง
รวมไปถึงในช่วยนั้นเองก็ดูจะมีความผันผวนหนัก ราคาสวิงสูงกว่าช่วงเวลาปกติพอสมควร
อ้างอิงจาก Cryptomind ยังพบว่าปริมาณเหรียญ BUSD ที่ถูกนำไปวางขายบนแพลตฟอร์ม DeFi ชื่อดังอย่าง Curve ก็สูงลิ่วจนเป็นสัดส่วนถึงราว 81% เมื่อเปรียบเทียบกับเหรียญอื่นๆ
อย่างไรก็ดีก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการที่ราคา BUSD หลุด Peg ลงมาเล็กน้อยสู่ระดับเศษของเศษดอลลาร์เนี่ยก็ถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกันการตายของ Stablecoin อื่นๆ ก่อนหน้าที่ราคาหลุด Peg กันลงมาหนักกว่านี้มาก อย่างเช่นตอนเหรียญ UST ของ Terra เป็นต้น
6. ประกาศปิดการถอน USDC บน Binance
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังร้อน นักลงทุนระส่ำระส่าย แต่ Binance ก็เลือกที่จะ ‘ปิดการถอน USDC ชั่วคราว’ ในวันที่ 13 ธันวาคม โดยระบุว่าจะทำการ ‘Token swap’ ที่เกี่ยวข้องกับ USDC จึงทำให้ถอนไม่ได้ และจะเปิดให้ถอนอีกครั้ง
binance https://twitter.com/binance/status/1602579775721283584?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1602579775721283584%7Ctwgr%5Eab6f48d7dd30a2c2c8b3caee03719c632ad5647e%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.cnbc.com%2F2022%2F12%2F13%2Fcrypto-exchange-binance-temporarily-halts-usdc-stablecoin-withdrawals.html
7. นิสัยไม่ดีหลายๆ อย่างของ Binance เอง
เอาจริงไอเรื่องนิสัยไม่ดีของ Binance เนี่ยก็ดูเหมือนหลายๆ คนจะชินไปแล้วนะ
นิสัยไม่ดียังไง? ก็อย่างเช่นชอบที่จะออกมาโจมตี, ด่า, ตอบโต้คนนู้นคนนี้โดยใช้บัญชีทวิตเตอร์ Official ของบริษัทไปตอบเลย และแต่ละความเคลื่อนไหวก็ดูเหมือนจะใช้อารมณ์เป็นหลักเอามากๆ (บ้างก็ว่า CZ นี่แหละเป็นคนเล่นเอง)
ที่จี๊ดที่สุดก็คงจะเป็นการแคปรูป ‘แชทลูกค้า’ ที่คุยกับ Customer service ของ Binance มาประจานกลางทวิต… ซึ่งก็ตามมาด้วยการทัวร์ลง ความคิดเห็นต่างเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไม่ควรโว้ย ที่สำคัญก็ยังเป็นวันที่ 13 ธันวาฯ ที่ประเด็น Binance กำลังร้อนๆ อีก
อ่านข่าวต่อ - เหมาะสมหรือไม่? Binance แคปแชทลูกค้าลงทวิต โต้ประเด็นผู้ใช้งานโดนขโมย API key!
นอกจากนี้พวกเรื่องนิสัยไม่ดีของ Binance รวมไปถึงความคิดเห็นของ CZ เองที่ดูไม่แคร์โลก ไม่ชี้แจงอะไรทั้งนั้นนอกจากการออกมาโพสต์ทำนองว่า ‘อย่าไปสนใจเลย’ หรือ ‘ให้ Ignore มันไปซะ’ หรือตอบโต้แบบใช้อารมณ์ก็ไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้น
สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว อ้างอิงจากอัปเดตจากทาง Cryptomind ราคา BUSD เหมือนจะกลับมาทรงตัวที่ 1 ดอลลาร์อีกครั้ง และไม่พบการเทขายก้อนใหญ่ๆ อีกแล้ว ซึ่งก็บอกเป็นนัยๆ ได้ว่าความเชื่อมั่นของ BUSD กำลังกลับคืนมา
cryptomindgroup https://twitter.com/cryptomindgroup/status/1602874009334337537
ในส่วนของ BUSD pool ใน Curve สัดส่วนของ BUSD ก็ลดลงมาเหลือ 78% จากวันก่อนหน้าที่ 81% แต่ทั้งนี้ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ายังเป็นตัวเลขที่สูงมากอยู่จากสถานการณ์ปกติที่ควรจะอยู่ราวๆ 25%
ด้านของ Net flow ที่ปริมาณการไหลออกของเงินก็กลับมาเป็นปกติ และยังเป็นสัดส่วนที่เทียบไม่ได้เลยเมื่อเปรียบเทียบกับรอบของ FTX ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน
หากเทียบกับจำนวนการซื้อขายต่อวันของ Binance ที่มากกว่า FTX ถึง 7.9 เท่า จะสรุปได้คร่าวๆว่า Binance ต้องถอนออกวันละ $15.8b ถึงจะใกล้เคียงกับ FTX ดังนั้น ปริมาณการถอนเงินออกจาก Binance จึงไม่น่ากังวลแบบ FTX
สุดท้ายแล้วก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะยังอยู่ในการควบคุม เงินยังมีคืนให้ผู้ใช้สำหรับใครที่อยากจะถอน รวมไปถึงอะไรที่ดูผิดๆ แปลกๆ จากวันก่อนก็กลับมาสู่สถานการณ์ปกติ หรือที่ยังไม่ปกติก็อยู่ในจุดที่ไม่น่ากังวลแล้ว
แต่ถึงอย่างไรก็ยังควรที่จะจับตาดู Binance ต่อไปก่อนสักระยะ ซึ่งก็ไม่เสียหายอะไร (นอกจากค่า fee ถอนเงิน) หากรู้สึกไม่สบายใจ แล้วค่อยเอากลับเข้าไปตอนที่อะไรๆ กลับมาสู่สภาวะปกติแล้วก็ยังได้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว