มูลค่าบิทคอยน์จริง ๆ แล้วควรอยู่ที่ $40,000
Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้ง Skybridge Capital ได้กล่าวว่า มูลค่าจริง ๆ ของบิทคอยน์ควรจะอยู่ที่ประมาณ $40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
![Dcct1cqt8os.jpg](https://cdn2.cryptosiam.com?url=https://api.cryptosiam.com/assets/044232f9-07fd-4575-b41d-6f2d72c7f69c.jpg&width=1610)
Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้ง Skybridge Capital ได้กล่าวว่า มูลค่าจริง ๆ ของบิทคอยน์ควรจะอยู่ที่ประมาณ $40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้ง Skybridge Capital ได้กล่าวว่า มูลค่าจริง ๆ ของบิทคอยน์ควรจะอยู่ที่ประมาณ $40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
มูลค่าบิทคอยน์ที่แท้จริง
เช่นเดียวกันยอดการซื้อขาย รวมไปถึงการใช้ Wallet ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นผู้ก่อตั้ง Skybridge ยังพูดถึงเหรียญ Ethereum อีกด้วยว่า มูลค่าที่แท้จริงของเหรียญ Ethereum ควรจะอยู่ที่ $2,800 เรื่องนี้เขาได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับทาง Marketwatch
![Oyxis2kalvg 10 1024x768.jpg](/assets/a1c78011-8784-46eb-ac6f-3293fee2b565.jpg)
เขามีความเชื่อว่า ตลาดหมีคริปโตที่แย่ที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว เช่นเดียวกับราคาบิทคอยน์ที่ได้ผ่านพ้นในจุดต่ำสุดของมันไปแล้ว ในส่วนเรื่องของการที่บริษัทคริปโตเคอร์เรนซี่บางแห่งอย่างบริษัท Celsius Network กับบริษัท Voyager Digital เอาไว้ว่า การที่บริษัทเหล่านี้ล้มละลายส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า มีการซื้อขายกันมากเกินจนทำให้ระบบล่มขึ้นมา ในขณะเดียวกันราคาบิทคอยน์เริ่มอยู่ในภาวะทรงตัวอีกครั้ง และเขาไม่คิดว่าราคาบิทคอยน์จะมีการปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้อีก อย่างมากที่สุดก็คงจะมีการปรับตัวลดลงบริเวณที่ $17,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ
บิทคอยน์กับ Ethereum ดีทั้งคู่
เมื่อมาดูมูลค่าของราคาบิทคอยน์แล้ว เขาคิดว่า เอาจริง ๆ แล้วมูลค่าของบิทคอยน์ควรที่จะอยู่ที่ประมาณ $40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยซ้ำ ส่วนราคาเหรียญ Ethereum ควรอยู่ที่ $2,800 เช่นกันเขาไม่ได้คาดหวังว่า บิทคอยน์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเวลานี้ และยังคงเป็นสินทรัพย์ที่จัดอยู่ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ คาดว่าคนส่วนใหญ่ต่างคาดหวังกับทิศทางแนวโน้มราคาคริปโตไปประมาณ 4-5 ปีข้างหน้า
สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เขามองว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นปีที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เหงื่อตกไปตาม ๆ กัน จากการที่อัตราการบริโภคในประเทศเริ่มมีการชะลอตัวลง