พันธบัตรดิจิทัลมูลค่า 100 ล้านยูโร คือการทดสอบ CBDC ของการเงินยุโรป
ธนาคารแห่งประเทศฝรั่งเศส หรือ Banque de France ออกมาประกาศว่าพันธบัตรดิจิทัล 100 ล้านยูโรจะถูกใช้งานในการทดสอบ CBDC ของสถาบันการเงินในยุโรป

ธนาคารแห่งประเทศฝรั่งเศส หรือ Banque de France ออกมาประกาศว่าพันธบัตรดิจิทัล 100 ล้านยูโรจะถูกใช้งานในการทดสอบ CBDC ของสถาบันการเงินในยุโรป
ท้ายที่สุดเราก็ได้รู้แล้วว่าพันธบัตรดิจิทัลมูลค่า 100 ล้านยูโรที่ถูกออกโดย European Investment Bank เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นปรากฎว่าเป็นการทดลองการใช้งานสกุลเงินดิจิทัล หรือ CBDC ของธนาคารกลางยุโรปนั่นเอง
โดยทางธนาคารกลางของฝรั่งเศสอย่าง Banque de France ได้ออกมาการประกาศถึงเรื่องนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29 เมษายน) โดยเปิดเผยว่าพันธบัตรดิจิทัลจะถูกชำระโดยใช้ CBDC บนบล็อกเชน
โดยพันธบัตรที่มีอายุสองปีได้รับการเผยแพร่บน Ethereum public blockchain ในวันอังคาร และทรงตัวได้ในวันถัดไป โดยมีวันครบกำหนดในวันที่ 28 เมษายน 2023 ซึ่งการขายพันธบัตรในครั้งนี้นำโดย Goldman Sachs, Santander และ Societe Generale
“จากมุมมองทางเทคโนโลยี การทดลองจำเป็นต้องมีการพัฒนา และปรับใช้สัญญาอัจฉริยะภายใต้เงื่อนไขที่ปลอดภัยเพื่อให้ Banque de France สามารถออก และควบคุมการหมุนเวียนของโทเค็น CBDC และเพื่อให้การโอน CBDC เกิดขึ้นพร้อมกันกับการส่งมอบโทเค็นหลักทรัพย์ไปยังพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุน” ตัวแทนจาก Banque de France กล่าว
ธนาคารกลางฝรั่งเศสยังเปิดเผยแผนการทดลองเพิ่มเติมในอนาคตโดยสังเกตว่าความพยายามของธนาคารเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้แสดงหลักฐานกรณีการใช้งานสำหรับ CBDC ของยุโรป
“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และด้วยความร่วมมือกับตลาด Banque de France จะทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อประเมินการใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางอื่น ๆ ในการชำระหนี้ระหว่างธนาคาร”
ข่าวที่ว่า EIB ได้ออกพันธบัตรบน Ethereum ทำให้ราคา Ether’s (ETH) อยู่ที่ 2,709 ดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28 เมษายน) ทาง Danny Kim หัวหน้าฝ่ายรายได้ของนายหน้าซื้อขายคริปโต SFOX กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าการประกาศดังกล่าว “ทำให้เกิดกรณีการใช้งาน Ethereum ในสถาบันที่รั้นขึ้น”
แม้จะมีความผันผวนของ Ether แต่การรอเงินยูโรดิจิทัลอาจใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากธนาคารกลางยุโรปไม่ได้เข้าร่วมในโครงการนำร่องนั่นเอง
เมื่อย้อนกลับไปในเดือนมกราคมปีนี้ Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า การพัฒนาเงินยูโรดิจิทัลนั้น “ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย” และเธอยังกล่าวเสริมว่า “ฉันหวังว่าจะไม่เกินห้าปี”
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 เมษายน ConsenSys ผู้นำในแอฟริกาใต้ Monica Singer เตือนว่ายุโรปอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลังหากช้าเกินไปที่จะเริ่มต้นดำเนินงาน
“หากธนาคารกลางในยุโรปรอจนถึงปี 2571 ในตอนนั้นก็จะไม่มีธนาคารกลาง เพราะใครจะใช้เงินยูโรในรูปแบบปัจจุบัน? ตอนนั้นจะมีทางเลือกมากมาย”