Blockchain

ชายจ้างนักฆ่าด้วย Bitcoin เพื่อปิดชีพภรรยา ถูกตรวจสอบย้อนกลับไปยังบัญชี Coinbase

Photo 1594232352231 11a0958d131c.jpg

แม้หลายต่อหลายคนอาจจะมองว่า Cryptocurrency นั้นมีไว้เพื่อการฟอกเงิน และกิจกรรมสีเทาทั้งหลาย แต่ทว่าด้วยคุณประโยชน์อันมหาศาลของ Blockchain ได้ทำให้การตรวจสอบการทำธุรกรรมเป็นไปได้โดยง่าย และนั่นหมายความว่าทุกการกระทำมิชอบของคุณไม่สามารถเล็ดรอดเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายได้อย่างแน่นอน

มีรายงานว่า Nelson Repogle ชายชาวเทนเนสซีถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าได้ใช้ Bitcoin เพื่อจ่ายเงินให้กับนักฆ่าที่เขาพบในเว็บไซต์ฆาตกรรมเพื่อจ้างวานฆ่าภรรยาของเขา

คดีนี้ถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่พิเศษของ FBI นามว่า Clay Anderson ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ได้รับรู้ข้อมูลที่นายอำเภอในเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี รายนี้พยายามเก็บเป็นความลับเอาไว้ แต่ทว่าท้ายที่สุดนายอำเภอรายนี้ก็ถูกเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณชนโดยเจ้าหน้าที่ของ British Broadcasting Corporation (BBC)

อ้างอิงตามที่ Anderson ระบุ Replogle ได้ส่งนักฆ่า Bitcoin พร้อมกับรูปรถของภรรยาของเขาซึ่งชื่อ Ann และรายละเอียดเกี่ยวกับเบาะแสของเธอทั้งหมด

Anderson ได้พยายามกล่าวเตือน Ann Replogle และสามีของเธอซึ่งตอนแรกอ้างว่าเขาไม่สามารถนึกถึงใครที่ต้องการทำร้ายเธอได้ แต่ท้ายที่สุดหลังจากขุดลึกลงไปอีกเล็กน้อย Anderson ก็สามารถเปิดเผยรายละเอียดของที่อยู่กระเป๋าเงิน Bitcoin ที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ฆาตกรรมเพื่อจ้างงาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ FBIก็ได้ร่วมมือกับ FBI Cyber ​​Task Force เพื่อวิเคราะห์ Bitcoin blockchain และนำมาใช้ค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้

กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้ในการจ่ายเงินให้กับนักฆ่าถูกดึงข้อมูลย้อนกลับไปที่กระเป๋าเงิน Coinbase จากนั้น FBI ก็เดินหน้าออกหมายเรียกไปยัง Coinbase เพื่อต้องการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าสตางค์ที่เป็นประเด็นใบนี้ ซึ่งทาง Coinbase นั้นก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเนื่องจากนี่ถือเป็นสถานการณ์ "คุกคามต่อชีวิต" ซึ่งบริการแลกเปลี่ยน Crypto ก็ได้มอบประวัติการทำธุรกรรมของกระเป๋าเงินซึ่งเชื่อมโยงกับชื่อของ Replogle และรูปภาพที่เขาใช้ในการเปิดบัญชี Coinbase รวมไปถึง IP Address ที่ Replogle ใช้ในการเชื่อมต่อการโอน

ด้วยข้อมูลที่ได้รับจากบัญชี Coinbase FBI สามารถติดตาม IP Address ที่ใช้โดย Replogle กลับไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต AT&T หลังจากมีหมายศาลให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Replogle แล้ว FBI ยืนยันว่าการเชื่อมต่อดังกล่าวมาจากบ้านของ Replogle นั่นเอง

แม้ว่าจะมีการยืนยันจากธนาคารของ Replogle ว่าเขาได้ใช้เงินจากบัญชีออมทรัพย์ส่วนตัวของเขาเพื่อซื้อ Bitcoin เพื่อจ่ายเงินให้กับนักฆ่า แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยตัวตนของนักฆ่ารายนี้ เนื่องจากนักฆ่าไม่ได้ใช้ Coinbase เพื่อรับเงิน แต่มีกระเป๋าเงินส่วนตัวของตัวเองซึ่งไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตัวตนของเขา

กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่า Bitcoin จะสามารถใช้งานได้แบบไม่ระบุตัวตน แต่ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้บน Blockchain ที่ทำงานอยู่ นั่นจึงทำให้เราเห็นว่า Blockchain ช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับ สร้างความโปร่งใส และประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนแก่ผู้ใช้อีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
98% ของธนาคารกลางทั่วโลก กำลังเตรียมใช้ CBDC
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS