พบกับ ‘World Blockchain Summit Bangkok’ มหกรรมบล็อกเชนระดับ World-class ที่จะรวบรวมกองทัพผู้เชี่ยวชาญ, บริษัท และนักลงทุนจากทั้งอุตสาหกรรมคริปโตทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในงาน พร้อมร่วมค้นหาเทรนด์ล่าสุดในโลกคริปโต, บล็อกเชน และ web3 ที่นี่ที่เดียว
หลังจาก ‘World Blockchain Summit Dubai’ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา ก็มาถึงคราวของกรุงเทพมหานครฯ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Blockchain Summit ครั้งที่ 23 ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเต็ล วันที่ 8-9 ธันวาคม 2022
โดยประเทศไทยมีมูลค่าการทำธุรกรรมคริปโตถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเพียง 1 ปี จึงเป็นจุดสนใจของเหล่านักทุนสู่การเป็น Hotspot ที่สำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตในภูมิภาคอาเซียน
‘World Blockchain Summit’ ที่ปักหมุดสู่กรุงเทพมหานครฯ ครั้งนี้ จึงมีจุดประสงค์ที่จะเป็น ‘ฮับ’ สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมบล็อกเชน, คริปโตเคอร์เรนซี และ web3 ที่รวมไปถึงนักลงทุน, โปรเจกต์ต่างๆ, บริษัท, ภาครัฐฯ และผู้นำทางเทคโนโลยี เพื่อหารือและเปลี่ยนความคิดเห็นสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมคริปโต รวมไปถึงช่องทางในการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคธุรกิจและภาครัฐฯ ให้ออกจากรูปแบบดั้งเดิมที่เคยเป็นอยู่
Nicole Nguyen ผู้ร่วมก่อตั้ง APAC DAO กล่าวว่า “กรุงเทพฯ และ WBS นับเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม web3 ในภูมิภาค APAC (เอเชีย-แปซิฟิก) เสมอมา และยังเป็นผู้นำคอมมูนิตี้ web3 ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย”
มหกรรมในครั้งนี้จะเป็นการนำเอาผู้กูรูทั้งจากภูมิภาคและจากทั่วโลกเข้ามารวมกันที่เดียว ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญต่างๆ อาทิ
Mohammed Saleem ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง World Blockchain Summit กล่าวว่า “ในขณะที่การนำใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนทั่วทั้งโลกกำลังเพิ่มมากขึ้น และได้มีนัยสำคัญต่อทุกภาคส่วนของธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งประเทศไทย ก็กลายมาเป็นผู้นำตลาดคริปโตในภูมิภาคอาเซียน เราจึงต้องการที่จะรวบรวมเอาผู้ให้ความสนใจในคริปโตเข้าด้วยกันภายในระยะเวลา 2 วันของมหกรรม โดยมีจุดมุ่งหมายคือการ ‘สร้างรากฐานอนาคตของ Web3.0’”
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้างานได้ที่ลิงก์นี้ World Blockchain Summit Bangkok
โดยสามารถใช้โค๊ด 'CRYPTOSIAM10' เป็นส่วนลดบัตรเข้างาน 10% ได้ทันที
REX-Osprey เปิดตัวกองทุน ETF ที่ให้ผลตอบแทนจากการ Staking Solana เป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ท่ามกลางอุปสรรคด้านกฎระเบียบ โดยสามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายวันแรกแตะ 33 ล้านดอลลาร์ และมีเงินไหลเข้าสุทธิ 12 ล้านดอลลาร์
ราคาของ Bitcoin อาจพุ่งแตะระดับ $116,000 ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ท่ามกลางสัญญาณบวกจาก 3 ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อแนวโน้มขาขึ้น ทั้งแรงซื้อจาก ETF ที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนของธนาคารกลางสหรัฐฯ และปริมาณเหรียญในตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุน Bitcoin ส่วนใหญ่ยังคงถือครองเหรียญ แม้จะมีกำไรในพอร์ตมากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ข้อมูลระบุว่า ราคาปัจจุบันยังไม่ดึงดูดให้นักลงทุนเทขาย ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้แรงขายจากผู้ถือครองรายเก่าหลังเปิดตัวกองทุน Spot ETF ยังคงกดดันราคาให้อยู่ในกรอบเดิม
ราคา Bitcoin สิ้นเดือนมิถุนายนปิดที่ระดับ 107,100 ดอลลาร์ ทำสถิติราคาปิดรายเดือนสูงสุดตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขาย แม้รูปแบบแท่งเทียนจะส่งสัญญาณว่าตลาดยังไม่แน่ใจว่าจะขึ้นหรือลงต่อก็ตาม
แม้สถาบันการเงินและภาคธุรกิจจะแห่เข้าซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง แต่แรงขายจากผู้ถือครองระยะยาว ที่เริ่มปล่อยเหรียญออกตั้งแต่เปิดตัวกองทุน Spot ETF เมื่อต้นปี 2024 กลับกลายเป็นแรงกดดันสำคัญที่ฉุดราคาให้อยู่ในช่วง 100,000 ดอลลาร์