Ethereum แตะจุดสูงสุดตลอดกาลเหนือ $4,400 หลังจากการอัปเกรด Altair
หลังจากที่ลดลงไปที่ประมาณ 1,780 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นับตั้งแต่นั้นมาราคาได้เพิ่มขึ้นถึง 147% โดยทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ 4,400 ดอลลาร์ได้
หลังจากที่ลดลงไปที่ประมาณ 1,780 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นับตั้งแต่นั้นมาราคาได้เพิ่มขึ้นถึง 147% โดยทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ 4,400 ดอลลาร์ได้
ราคา Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามมูลค่าราคาตลาด (market cap) ได้พุ่งขึ้นมากกว่า 10% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้ ราคา ETH ได้แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ 4,416.05 ดอลลาห์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko
ในขณะที่เขียน ETH ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,380 ดอลลาห์ ราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้นราว ๆ 46.6% นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม จุดสูงสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ระดับ 4,308.48 ดอลลาห์
Ethereum มีแนวโน้มขาขึ้นอย่างสวยงามนับตั้งแต่ราคาลดลงไปที่ประมาณ 1,780 ดอลลาร์ในช่วงเดือนกรกฎาคม ราคาได้ปรับตัวขึ้นมา 147% นับตั้งแต่นั้นมาสู่จุดสูงสุดใหม่อย่างที่เราได้เห็นกัน
แม้ว่าเมื่อวันอังคารที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาจะร่วงลงต่ำกว่า 4,000 ดอลลาห์ แต่นักลงทุนก็ใช้โอกาสนี้ในการซื้อเมื่อราคาย่อตัว (dip-buying) โดยเมื่อวานนี้ เครือข่ายได้รับการการอัพเกรดครั้งที่สามในรอบเจ็ดเดือน สิ่งนี้จะนำไปสู่ Ethereum 2.0 ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เร็วขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งใกล้จะบรรลุผลแล้ว
การอัพเกรด Altair Beacon Chain ซึ่งเป็นขั้นตอนไปสู่ Ethereum 2.0 นั้นเริ่มต้นได้สำเร็จ โดยมี 98.7% ของโหนดได้รับการอัปเกรดในขณะนั้น การอัพเกรด Altair ที่ประสบความสำเร็จนี้ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยปูทางไปสู่การรวมกับ Ethereum mainnet และการเปลี่ยนไปใช้ proof-of-stake (PoS) ใน Ethereum 2.0 แทนที่ Proof-of-work (PoW) แบบเดิม
จุดอ่อนของ Ethereum ที่มามานานคือปัญหาเรื่อง scalability ซึ่งเกิดจากการที่แอปพลิเคชันและจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบเกิดความแออัดนั่นเอง นอกจากนี้การที่เครือข่าย Ethereum มีผู้ใช้และจำนวนธุรกรรมที่มากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม หรือที่เราเรียกว่าค่าแก๊สสูงขึ้นตามไปด้วย การอัพเกรดที่ประสบความสำเร็จนี้จึงเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เพราะอาจแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
ความสำเร็จของ Ether ยังได้รับแรงหนุนจากการใช้แพลตฟอร์มในภาคการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และ Non-fungible token (NFT) ที่กำลังเติบโตและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนี่จึงเหตุผลที่ทำให้อาจมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไปในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 และอาจถึงปี 2022 เพิ่มเติม
ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าราคา ETH จะเป็นอย่างไรต่อหลังจากนี้ นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า Altcoins Season กำลังใกล้เข้ามาแล้ว หลังจากที่ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทางคริปโตสยามจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
