General

ปอนด์ดิจิทัล จะเรียกคืนสถานะ “ศูนย์กลางทางการเงิน” ของลอนดอนหลัง Brexit ได้หรือไม่?

Photo 1590407499464 Be68a7d8ec88.jpg

วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่า การดำเนินของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางแห่งแดนผู้ดี หรือ “เงินปอนด์ดิจิทัล” จะสามารถเร่งการเติบโตของสหราชอาณาจักรหลังพวกเขาได้ Brexit และทำให้ลอนดอนยังคงโลดแล่นบทเวทีโลกในฐานะศูนย์กลางการเงินของยุโรปได้ดังเดิมหรือไม่

CityUnited ซึ่งเป็น สถาบันศึกษา วิจัย และวิเคราะห์นโยบายสาธารณะทางการเงิน หรือ Think-Tank สัญชาติสหราชอาณาจักร ได้ชี้ให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรควรใช้เงินปอนด์ดิจิทัลเพื่อช่วยเสริมสร้างสถานะของลอนดอนให้คงอยู่ในฐานะศูนย์กลางการค้าระดับโลกหลังจากที่ทำการ Brexit เพราะก่อนหน้านี้ทางลอนดอนนั้นเคยเป็นจุดศูนย์กลางแรงดึงดูดของภาคการเงินของในยุโรป จนกระทั่งได้สูญเสียอิทธิพลส่วนใหญ่ไปในตอนท้ายของปี 2020 เมื่อข้อตกลงของการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษนั้นได้ข้อสรุป

ซึ่ง ณ ขณะนี้ ทางกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรกำลังเปิดรับข้อเสนอเกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้เมืองลอนดอนน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ค้าทั่วโลก และดึงกิจกรรมทางการเงินทั้งหลายกลับจากอัมสเตอร์ดัมซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการค้าใหม่ของสหภาพยุโรปหลัง Brexit

ทั้งนี้เหล่านักการเมืองที่ไม่เชื่อมั่นในยูโร และทหารผ่านศึกในลอนดอนได้ร่วมกันก่อตั้ง CityUnited ซึ่งเป็นสถาบันศึกษา วิจัย และวิเคราะห์นโยบายสาธารณะทางการเงินที่เสนอแนวคิดเกี่ยวกับวิธีส่งเสริมการเติบโตในสหราชอาณาจักรที่เป็นอิสระ

Daniel Hodson ประธาน CityUnited กล่าวกับ Reuters ว่าการพิจารณาของธนาคารกลางอังกฤษเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง แต่กระบวนการนี้ควรเร่งดำเนินการ

“ธนาคารแห่งอังกฤษกำลังพูดถึง CBDC แต่พวกเขาควรให้ความสำคัญมันเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีรูปแบบนี้เป็นอนาคต และจะก่อให้เกิดประโยชน์อื่น ๆ เช่นการ ควบคุมแบบเรียลไทม์เพื่อลดค่าใช้จ่าย”

ซึ่ง Hodson ก็เตือนว่า ความคืบหน้าของจีนในการเปิดตัว CBDC น่าจะทำให้หน่วยงานการเงินของอังกฤษกังวล เพราะเทคโนโลยีดังกล่าวอาจ "ขโมยการเดินขบวนที่ยาวนาน" ในสหราชอาณาจักร ไป

“สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ควรเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับเมืองแห่งการแข่งขันหลังจาก Brexit มิฉะนั้นจีนจะขโมยการเดินขบวนที่ยาวนานของเราไป”

ความคืบหน้าของจีนในการสร้าง CBDC นั้นนำหน้าหลายประเทศทั่วโลกไปไกลเลยทีเดียว โดยเห็นได้จากการออกหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Biometric passport) ที่เชื่อมโยงกับกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลพร้อมกับโครงการนำร่องที่คล้ายกันอีกมากมาย และแม้ว่าจีนจะไม่ใช่ประเทศแรกที่ออก CBDC ก็ตาม เพราะผู้ที่เกียรติยศดังกล่าวนั้นคือบาฮามาส แต่ทว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่จะมาจาก CBDC ของจีนนั้นจะมากกว่าแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
98% ของธนาคารกลางทั่วโลก กำลังเตรียมใช้ CBDC
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Coinbase ประกาศลิสต์ 1 เหรียญ Altcoin จากโครงการ AI เข้ากระดานเทรด