ปริมาณธุรกรรมคริปโตของอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 1,000% จากปีที่แล้ว ท่ามกลางความนิยมของ DeFi
ตลาดคริปโตของอเมริกาเหนือได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก DeFi โดยมีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000% ในช่วงปีที่ผ่านมา และยังเป็นภูมิภาคที่มีตลาดคริปโตใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกอีกด้วย
ตลาดคริปโตของอเมริกาเหนือได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก DeFi โดยมีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000% ในช่วงปีที่ผ่านมา และยังเป็นภูมิภาคที่มีตลาดคริปโตใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกอีกด้วย
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของอเมริกาเหนือได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการเงินแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Finance) หรือ DeFi โดยมีปริมาณธุรกรรมคริปโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000% ในช่วงปีที่ผ่านมา
จากรายงานของ Chainalysis เผยว่า ในปี 2021 ปริมาณธุรกรรมคริปโต รายเดือนทั่วอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000% ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2020 ถึงมิถุนายนปี 2021 ปริมาณการทำธุรกรรมคริปโตรายเดือนสูงถึง 164 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคมปี 2021 ก่อนที่จะลดลงสู่ 100 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ภูมิภาคอเมริกาเหนือครองตำแหน่งอันดับหนึ่งทางด้านการเงินแบบกระจายอำนาจหรือ DeFi โดยมีธุรกรรม DeFi ราว ๆ 37% ของปริมาณการทำธุรกรรมในอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2020 ถึงมิถุนายนปี 2021 โดยมีการโอนเงินจำนวนกว่า 276 พันล้านดอลลาห์ไปยังแพลตฟอร์ม DeFi
นอกจากนี้อเมริกาเหนือยังเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีตลาดคริปโตใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางคริปโตสยามเคยรายงานไปว่า ภูมิภาคยุโรปกลาง ยุโรปเหนือ และยุโรปตะวันตก เป็นกลุ่มที่มีตลาดคริปโตใหญ่ที่สุดในโลก นำโดยสหราชอาณาจักรนั่นเอง ซึ่งภูมิภาคนี้มีปริมาณการทำธุกรรมโดยรามกว่า 389 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 40% ของปริมาณธุรกรรมทั้งหมดเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนระดับสถาบัน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการทำธุรกรรมในอเมริกานั้นมาจากนักลงทุนรายย่อย ซึ่งธุรกรรมจำนวนมีมูลค่าต่ำกว่า 10,000 ดอลลาห์ โดย Uniswap เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งมีการโอนเงินจำนวนกว่า 1 แสนล้านดอลลาห์ในช่วงปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง dydx
ท่ามกลางความนิยมใน DeFi ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในอเมริกาเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้เป็นตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี Ransomware อันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน
Ransomware เป็นหนึ่งในรูปแบบอาชญากรรมในสกุลเงินดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุด และอาจเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เมื่อพิจารณาจากประเภทขององค์กรที่ถูกโจมตีบ่อยครั้ง ในระหว่างเดือนกรกฎาคมปี 2020 ถึงมิถุนายนปี 202 1 มีผู้ใช่งานในอเมริกาเหนือได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 131 ล้านดอลลาร์จาก ransomware มากกว่ายุโรปตะวันตกถึงสองเท่าเลยทีเดียว
