General

อาชญากรรม Crypto กำลังลดลง สวนทางกับการแฮ็ก DeFi ที่เพิ่มขึ้น

Photo 1506378950192 D9fc7e45bc71.jpg

ด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ DeFi ในปี 2020 ทำให้อุตสาหกรรมนี้เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับแฮ็กเกอร์ แทนที่การโจรกรรมผ่าน Cryptocurrency

รายงานฉบับใหม่ระบุว่าอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลได้ชะลอตัวลงในปี 2020 แต่ทว่านี่ไม่ใช่ข่าวดีสักทีเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือ บางภาคส่วนในอุตสาหกรรมคริปโตกลับกลายเป็นแหล่งกบดานใหม่สำหรับเหล่าอาชญากรไซเบอร์ทั้งหลาย

อุตสาหกรรมคริปโตเริ่มแข็งแกร่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้อ้างถึงสิ่งที่ CipherTrace บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ด้าน Crypto รายใหญ่ได้รายงานเอาไว้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่าความสูญเสียทั้งหมดที่เกิดจากการขโมยคริปโต, การแฮ็ก และการฉ้อโกงลดลงจาก 4.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2019 เหลือเพียง 1.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2020 นี้

Dave Jevans CEO ของ CipherTrace กล่าวว่าการลดลงของกิจกรรมทางอาญาโดยทั่วไปในอุตสาหกรรม Crypto เป็นผลมาจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

Dave Jevans 1024x576.jpg
Dave Jevans CEO ของ CipherTrace
“สิ่งที่เราได้เห็นก็คือผู้ให้บริการการแลกเปลี่ยน และเหล่าผู้เล่นสกุลเงินดิจิทัลรายอื่น ๆ ได้ใช้ขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้น [... ] พวกเขาต่างได้รับคำแนะนำ และดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้กองทุนของพวกนั้นเขาดีขึ้น ดังนั้นคุณจะเห็นการแฮ็กขนาดมหึมาน้อยลงไป”

เหล่าอาชญากรนั้นไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

แม้จะมีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ลดลงอย่างมากในปีนี้ แต่ CipherTrace ก็ยังรายงานต่อไปว่าเหตุการณ์การแฮ็กในการเงินแบบกระจายอำนาจหรือ DeFi กลับมีอัตราการเติบโตสูงมาก ในขณะที่ในปี 2019  การแฮ็ก DeFi นั้น “แทบจะไม่สำคัญเลย” แต่ตอนนี้การกระทำดังกล่าวคิดเป็น 20% ของการสูญเสีย Xrypto จากการขโมย และการแฮ็ก โดยสิ่งที่นักวิเคราะห์ของ CipherTrace ค้นพบก็คือ “การพรั่งพรูเข้าสู่วงการ DeFi เป็นสิ่งที่ดึงดูดเหล่าแฮ็กเกอร์ และอาชญากรไซเบอร์ทั้งหลาย ซึ่งในที่สุดก็ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้เป็นภาคส่วนที่มีการแฮ็กข้อมูลมากที่สุดในปี 2020”

Jevans กล่าวว่าอุตสาหกรรม DeFi ได้กลายเป็น “สวรรค์สำหรับนักฟอกเงิน” เนื่องจากโครงการ DeFi นั้นมาในรูปแบบ “Permissionless by design” หรืออนุญาตให้ใคร ๆ ก็ได้ สามารถที่จะพัฒนา และออกแบบมันขึ้นมา จึงมักขาดเครื่องมือที่จำเป็น ซึ่งก็คือระบบการตรวจสอบความปลอดภัยของโครงการแบบรวมศูนย์นั่นเอง

“บริษัท และบุคคลต่าง ๆ ได้เร่งนำผลิตภัณฑ์ DeFi ของพวกเขาออกสู่ตลาดโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ และรับรองความปลอดภัย [... ] ดังนั้นผู้คนมากมายจึงพบว่ามีจุดอ่อนแบบนี้”
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain