ค่า Diff ของ Bitcoin ร่วงลงครั้งแรกในปี 2022
การปรับระดับความยากในการขุด หรือ ค่า Diff ของ Bitcoin มีค่าลดลงไปกว่า 1.5% เป็นครั้งแรกในปี 2021
การปรับระดับความยากในการขุด หรือ ค่า Diff ของ Bitcoin มีค่าลดลงไปกว่า 1.5% เป็นครั้งแรกในปี 2021
หลังจากการปรับฐานระดับความยาก (Difficulty) ในการขุดเป็นไปในเชิงบวกต่อเนื่องกันถึง 6 ครั้ง ทำให้ค่า Difficulty และ Hash rate แตะระดับสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุด ค่า Diff ของ Bitcoin ร่วงลงมาอยู่ที่ 1.49% เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2021 เนื่องจาก Hash rate เฉลี่ยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลงเหลือเพียง 197.19 ครั้งต่อวินาที (EH/s) รวมไปถึงเวลาที่ใช้ในการขุด หรือ Block Time โดยเฉลี่ยนั้นก็ได้กินเวลานานเกินไป
ค่า Diff ของ Bitcoin ร่วงลงได้อย่างไร?
การปรับค่า Diff นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโปรโตคอล Bitcoin (BTC) ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นที่สุด โดยในทุก ๆ 2 สัปดาห์ Block จำนวน 2,016 รายการ จะได้รับการคำนวณค่าเฉลี่ยใหม่ และค่า Diff ในการขุดก็จะถูกปรับไปตามค่าเฉลี่ยของจำนวน Block เหล่านั้น ซึ่งจะส่งผลต่อความยาก และง่ายในการขุดนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม Satoshi Nakamoto ได้ระบุไว้บน White paper ของ Bitcoin ว่า
“ค่า Difficulty ของการทำงานด้วยอัลกอริทึม Proof-of-Work ถูกกำหนดให้มีการปรับค่าเฉลี่ยในการขุดด้วยค่าเฉลี่ยของจำนวน Block ต่อชั่วโมง หากพบว่ามีการสร้าง Block ที่รวดเร็วเกินไป ระบบจะดำเนินการเพิ่มระดับความยากให้มากขึ้นในทันที”
Bitcoin จะขุดได้ง่ายขึ้น
ปัจจุบัน Block ทั้งหมด 2,016 รายการ ใช้เวลาในการสร้างที่นานเกินไป โดยอ้างอิงจากข้อมูล พบว่า Block Time โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10.9 นาที ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ระบบได้ทำการปรับฐานลดระดับความยากลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้บรรดานักขุดพบว่าการแก้ไขสมการเพื่อเพิ่ม Block ใหม่เข้าไปในระบบ Blockchain ให้ถูกต้องนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
นักขุดคริปโตชื่อดังยืนยันค่า Diff จะกลับมาเพิ่มขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม Denver Bitcoin นักขุดเหรียญชื่อดังได้ออกมากล่าวว่าการปรับฐานลงไปที่ 1.49% อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ในครั้งนี้ได้บ่งชี้ถึงค่าเฉลี่ยที่น้อยกว่าการปรับฐานในช่วงยุคมืดของการขุดคริปโตที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2021 อยู่ค่อนข้างมาก โดยในยุคมืดครั้งก่อนนั้นได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนได้ออกมาสั่งแบนเหมืองขุด Bitcoin ทุกแห่งภายในประเทศ จนทำให้ Hash rate ดิ่งลงมาอย่างรุนแรง ต้องขอบคุณอัตราการเติบโตของเหรียญที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2021 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ หลายประเทศทั่วโลกก็ได้เริ่มออกมาผ่อนปรนนโยบายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น เช่น คาซัคสถาน และแคนาดา
ทั้งนี้ Denver Bitcoin ออกมาคาดการณ์ว่าเป้าหมายที่เหมือง Bitcoin จะสามารถทำได้ในปี 2022 นี้นั้นจะช่วยทำให้ Hash rate พุ่งขึ้นไปสูงถึง 300 Eh/s ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่จำนวนเหมืองขุดเหรียญดิจิทัลได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ยืดหยุ่นมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
การแข่งขันในตลาดคริปโตเริ่มทวีความดุเดือดมากขึ้น
การแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเหมือง Bitcoin เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผู้เล่นในตลาดเทคโนโลยีอย่าง Intel ได้แสดงเจตนารมณ์ขององค์กรในการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain เพื่อลดอัตรา Hash rate พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องขุดตัวใหม่ของแบรนด์ที่จะช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการขุดเหรียญให้เพิ่มมากขึ้นอีกอ้วย
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเหมืองคริปโตกำลังได้รับความนิยมในหลากหลายประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐต่าง ๆ ในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาก็ได้ออกมาสนับสนุนให้ผู้คนดำเนินธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีได้ ยิ่งไปกว่านั้นในบางรัฐยังได้มีการออกมาส่งเสริมให้เกิดการละเว้นภาษีคริปโตแก่นักขุด และลงนามรับเครื่องขุดคริปโตเข้ามาใข้ในพื้นที่เพิ่มเติม
รัสเซียมองว่าเหมืองคริปโตมีประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้น Vladimir Putin ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ก็ได้ออกมายอมรับ และแสดงความสนใจต่อการขุดสินทรัพย์ดิจิทัลว่าสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในภายภาคหน้าได้อย่างแน่นอน เนื่องจากในปัจจุบัน ปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนได้ทวีความรุณแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ในหลายประเทศออกมาคว่ำบาตรรัสเซียกันเป็นจำนวนมาก และค่าเงินรูเบิลยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นประชาชนภายในประเทศจึงเริ่มมีการซื้อขายเหรียญคริปโตตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้มากขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งหนทางในการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้นั่นเอง