Terra ทำให้หลายองค์กรขาดทุนย่อยยับ!

หลังจากที่ Terra ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบนิเวศของเหรียญ terraUSD (UST) และ Luna (LUNA) ได้สำเร็จ ส่งผลให้นักลงทุนรายใหญ่ต่างพากันออกมาจัดการกับบัญชีของตนเอง พร้อมทั้งเปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียเงินไปอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Hashed และ Delphi Digital ต่างก็ต้องพบกับความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน

Delphi Digital วิเคราะห์ Terra พลาด ถูกวิจารณ์หนัก

บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างพากันออกมาวิพากษ์วิจาร์ณถึงความล้มเหลวของ Delphi Digital หนึ่งในผู้วิจัย และนักลงทุนรายย่อยอย่างหนาหู หลังจากที่ไม่สามารถคำนวณได้ว่าเหตุการณ์ Death Spiral จะเกิดขึ้น ส่งผลให้ทางองค์กรต้องออกมาแถลงการณ์ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าเงินทุนสำรองของ LUNA ที่ Luna Foundation Guard (LFG) เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ยังคงสามารถป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อยู่ แม้ว่าทางบริษัทจะยังกังวลต่อโครงสร้างของโทเคน UST และ LUNA ก็ตาม

หนึ่งในสาเหตุที่ Terra ทำให้หลายองค์กรขาดทุน

ทางบริษัทยังได้ออกมาเปิดเผยถึงรายละเอียดการลงทุนของกองทุน Delphi Ventures Master Fund ในช่วงไตรมาสแรกประจำปี 2021 หลังตัดสินใจซื้อ LUNA เก็บไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งคิดเป็น 0.5% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset Value - NAV) ณ ขณะนั้น แต่ทว่า ในเวลาต่อมามูลค่าของโทเคนดังกล่าวได้ทะยานพุ่งขึ้นมาอย่างมหาศาล ส่งผลให้สัดส่วนสินทรัพย์ที่ทางกองทุนถือครองอยู่นั้นเพิ่มขึ้นมาด้วย รวมไปถึงการเข้าร่วมระดมทุนกับทาง LFG มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาจะร่วงลงมาอย่างน่าตกใจในปัจจุบัน

ในขณะเดียวกัน ทาง Delphi เองก็ยอมรับว่าไม่ได้มีการนำ LUNA ออกมาขายแต่อย่างใด ซึ่งแน่นอนว่าในปัจจุบัน เหรียญดังกล่าวก็ได้ทำให้บริษัทต้องขาดทุนอย่างมหาศาลเลยทีเดียว

ครั้งหนึ่ง Delphi เคยเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นกับความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงขององค์กร LFG อย่างมาก แต่ทว่าในท้ายที่สุดแล้ว เพียงแค่ความเชื่อมั่นอย่างเดียวนั้น อาจไม่เพียงพอ หลังจากที่ราคาของ Bitcoin (BTC) เริ่มลดระดับลงในช่วงต้นไตรมาส ทางองค์กรก็ได้ตัดสินใจเข้าซื้อ Bitcoin จำนวนมหาศาลเพื่อนำมาใช้หนุนเหรียญ LUNA และ UST ในทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้ส่งบอกใบ้ถึงสัญญาณอันตรายแก่ Delphi ในทันที ทั้งนี้ ทางบริษัทยังได้ออกมาอธิบายว่า

“พวกเราเชื่อมั่นว่าการมีสินทรัพย์ค้ำประกันในปริมาณมากนั้นจะส่งผลดีให้กับการลงทุนในระยะยาว ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้มองเห็นถึงศักยภาพของตัวสินทรัพย์ว่าจะสามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่ทว่า ในท้ายที่สุดแล้ว อุปทานของโทเคนดังกล่าวก็ไม่สามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบกับอุปทานของ UST ได้เลย รวมไปถึงยังไม่สามารถนำมารวมกับมูลค่าของกองทุนสำรอง BTC ที่ร่วงลงมา ซึ่งแน่นอนว่าอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าที่จะทำการป้องกันได้แล้วนั่นเอง”

Hashed ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของ Terra ก็ขาดทุนไม่แพ้กัน

Hashed บริษัทร่วมลงทุนสัญชาติเกาหลีใต้ และหนึ่งในผู้สนับสนุนของ Terra ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง รวมไปถึงยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมระดมทุนกับ Terra ในปี 2021 ด้วยมูลค่าสูงถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทางบริษัทได้เปิดเผยถึงความประทับใจในการจัดการ และการดำเนินการของเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการสร้างผลิตภัณฑ์ การว่าจ้าง การอำนวยความสะดวก และการโต้ตอบกับชุมชน เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นทางบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการที่ Terra ล่มสลายอีกด้วย โดยจะเห็นได้จากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทได้ทำการ Stake เหรียญ LUNA ไว้ด้วยมูลค่าสูงกว่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐบน Mainnet ของ Columbus 3 รวมไปถึง Columbus 4 มูลค่า 9.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Columbus 5 เวอร์ชันล่าสุดด้วยมูลค่าราว 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังเกิดวิกฤตจาก Terra ได้ทำให้ Hashed ขาดทุนไปมากกว่า 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนี้สื่อท้องถิ่นในประเทศเกาหลีใต้ก็ได้ออกมารายงานว่าบรรดานักลงทุนชาวเกาหลีใต้กว่า 200,000 รายมีโทเคนของ Terra ไว้ในครอบครองอีกด้วย คงต้องมารอลุ้นกันต่อไปว่าทางรัฐบาลเกาหลีใต้จะออกมาตอบสนองต่อความเสียหายในครั้งนี้อย่างไร หลังจากที่ล่าสุด คณะกรรมการบริหารด้านการเงินของประเทศเริ่มออกมาเตือนให้ประชาชนละเว้นการลงทุนในโทเคนดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดหลายรายพากันเทขายเหรียญ และเก็งกำไร พร้อมให้เหตุผลว่าพวกเขาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว