ราคาของ Bitcoin อาจพุ่งแตะระดับ $116,000 ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ท่ามกลางสัญญาณบวกจาก 3 ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อแนวโน้มขาขึ้น ทั้งแรงซื้อจาก ETF ที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนของธนาคารกลางสหรัฐฯ และปริมาณเหรียญในตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ราคาสินทรัพย์ดิจิทรวมถึง Bitcoin และ Altcoin หลักร่วงหนัก หลังประธานาธิบดี Donald Trump กลับจาก G7 ก่อนกำหนด พร้อมข้อความเตือนอพยพด่วนจากเตหะราน
แม้ราคา Bitcoin จะเข้าใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 111,970 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่บรรดานักวิเคราะห์เตือนว่ายังไม่มีปัจจัยพื้นฐานเพียงพอที่จะผลักดันราคาให้ทะลุจุดสูงสุดเดิมได้อย่างมั่นคง ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่เริ่มเผชิญทางเลือกระหว่างถือหรือขาย
ไตรมาส 3 ของปีมักเป็นช่วงที่ Bitcoin ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้แย่ที่สุด ขณะที่นักวิเคราะห์ยังถกเถียงถึงแนวโน้มของราคาในช่วงต่อไป
ราคาของ Bitcoin ปรับตัวขึ้น 7.68% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลง 6.79% และ 8.14% ตามลำดับ
Santiment ระบุว่า เทรดเดอร์รายย่อยพยายามหาต้นเหตุมารองรับการปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาด หลังราคาคริปโตร่วงแรงจากข่าวภาษีสหรัฐฯ–จีน แต่นักวิเคราะห์มองต่าง
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า การที่ราคา Bitcoin ร่วงเกิน 5% ในเดือนตุลาคมถือเป็นเหตุการณ์ที่ “เกิดขึ้นได้ยากมาก” และตามสถิติในอดีต ราคามักฟื้นตัวแรงภายในสัปดาห์ถัดมา
นักเศรษฐศาสตร์ Timothy Peterson เผยผลจำลองข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี บ่งชี้ Bitcoin มีโอกาสครึ่งต่อครึ่งแตะระดับ 140,000 ดอลลาร์ในเดือนนี้ ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนเดือนตุลาคมในอดีต
เทรดเดอร์รายใหญ่บนแพลตฟอร์ม Hyperliquid เปิด Short Bitcoin มูลค่า $163 ล้าน หลังจากทำกำไรเกือบ $200 ล้านจากการเทรดก่อนข่าวภาษีของ Trump เพียงไม่กี่นาที
ตลาดอนุพันธ์ของ Ether เริ่มกลับมาสงบหลังเหตุการณ์เทขายครั้งใหญ่ ขณะที่แรงซื้อกลับเข้ามาหนุนราคาให้ดีดตัวต่อเนื่องเหนือแนวรับสำคัญ
