บริษัทและกองทุนที่ถือครอง Bitcoin ซื้อเพิ่มรวมกันกว่า 6,700 BTC มูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นการเข้าซื้อจากบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่น Metaplanet ขณะกองทุน ETF ยังคงเป็นแรงขับหลักที่หนุนราคาแตะจุดสูงสุดใหม่
Next Technology Holding บริษัทซอฟต์แวร์และผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดของจีน ยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญมูลค่าสูงสุด 500 ล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin เพิ่ม
แอฟริกามีบริษัทคลัง Bitcoin แห่งแรกอย่างเป็นทางการ หลัง Africa Bitcoin Corporation (ABC) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป้าหมายคือระดมทุนกว่า 210 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ Bitcoin ขณะที่ผู้บริหารย้ำ “นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเงิน แต่คือเรื่องของความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
นักวิเคราะห์คริปโต Matthew Hyland ชี้ ตลาดอาจกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญหลัง “Bitcoin Dominance” อยู่ในแนวโน้มขาลงมาหลายสัปดาห์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่า Altcoin Season กำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุว่า Bitcoin มีโอกาสปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า โดยประเมินว่าอาจมีราคาแตะ 170,000 ดอลลาร์ หากเทียบมูลค่ากับทองคำตามอัตราความผันผวนของราคา

Coinbase เดินหน้าเสริมธุรกิจ Stablecoin หลังรายมีรายได้เพิ่มขึ้นจนคิดเป็นกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3 ขณะอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ BVNK บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางอินโดนีเซีย เดินหน้าออกเหรียญดิจิทัลที่มีพันธบัตรรัฐบาลหนุนหลัง โดยระบุว่าเป็น “Stablecoin แห่งชาติ” ซึ่งจะถูกผนวกเข้ากับสกุลเงินดิจิทัลรูเปียห์ ที่พัฒนาอยู่ในปัจจุบัน


บริษัท BitMine Immersion Technologies เดินหน้าซื้อ Ether อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มการสะสมขึ้นอีก 34% จากสัปดาห์ก่อนหน้า รวมทั้งสิ้น 110,288 ETH ขณะที่บริษัทตั้งเป้าถือครอง 5% ของอุปทานทั้งหมดในตลาด

แม้กองทุน Bitcoin และ Ether ETF จะเผชิญกับการไหลออกมากถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แรงซื้อสะสมจากนักลงทุนรายใหญ่ และกระแสเงินไหลเข้าสู่กองทุน Altcoin ยังช่วยพยุงความเชื่อมั่นของตลาดคริปโตโดยรวมไม่ให้ทรุดตัวลงต่อ

Stephen Miran ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระบุว่าความต้องการ Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการกด “อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง” ให้ลดลง พร้อมคาดว่ามูลค่าตลาด Stablecoin ทั่วโลกอาจแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี