โมเดลราคา 10 ปีชี้! ซื้อ Bitcoin ที่ $100,000 ยังคุ้มค่า ย้ำ “เวลา” คือปัจจัยหลักในการสร้างผลตอบแทน
แบบจำลองระยะยาวของ Bitcoin ระบุว่าแม้จะเข้าซื้อที่ $100,000 ผลตอบแทนในช่วง 10 ปีข้างหน้าก็ยังมีโอกาสเติบโตระดับ 300% โดยความแตกต่างของจุดซื้อไม่ได้ส่งผลมากเท่ากับ “ระยะเวลาในการถือครอง” ขณะที่ข้อมูลชี้ Bitcoin กำลังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าที่ควรเป็นเมื่อเทียบกับสภาพคล่องทั่วโลก ซึ่งอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์และบ่งชี้แนวโน้มเชิงบวกในระยะยาว

แบบจำลองระยะยาวของ Bitcoin ระบุว่าแม้จะเข้าซื้อที่ $100,000 ผลตอบแทนในช่วง 10 ปีข้างหน้าก็ยังมีโอกาสเติบโตระดับ 300% โดยความแตกต่างของจุดซื้อไม่ได้ส่งผลมากเท่ากับ “ระยะเวลาในการถือครอง” ขณะที่ข้อมูลชี้ Bitcoin กำลังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าที่ควรเป็นเมื่อเทียบกับสภาพคล่องทั่วโลก ซึ่งอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์และบ่งชี้แนวโน้มเชิงบวกในระยะยาว
แบบจำลองการลงทุนระยะ 10 ปีที่จัดทำโดยนักวิจัยด้าน Bitcoin นามว่า Sminston With เผยผลการจำลองที่ชี้ว่าการ “จับจังหวะซื้อ” อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดของผลตอบแทนในระยะยาว โดยโมเดลดังกล่าวทดสอบการนำเงินลงทุน $100,000 เข้าซื้อ Bitcoin ที่สามระดับราคา คือซื้อที่ราคา $94,000 รวมถึงสถานการณ์ที่ซื้อแพงขึ้น 20% และถูกลง 20%
จากนั้นแบบจำลองนำราคา Bitcoin ในอนาคตตามเส้นแนวโน้มแบบ Power-Law มาใช้คาดการณ์ พร้อมกำหนดให้ผู้ลงทุนถอน 10% ของพอร์ตทุกปีเพื่อใช้จ่าย และทำแบบทดสอบสามรูปแบบในวันขายออก คือ ขายที่ราคาเทียบเท่าเส้นแนวโน้ม ขายแพงกว่า 20% และขายถูกกว่า 20%
ผลลัพธ์ทั้งหมดออกมาเป็นบวก แม้ในกรณีที่ “โชคร้ายที่สุด” คือการซื้อแพงกว่าราคาเริ่มต้น 20% และขายถูกกว่าเส้นแนวโน้ม 20% แต่ก็ยังคงได้ผลตอบแทนรวมราว 300% หลังถือครองครบ 10 ปี แม้จะถอนเงินออกทุกปีตามเงื่อนไขที่กำหนด ผลตอบแทนสะสมสุดท้ายยังอยู่ที่ 7.7 เท่า ของเงินต้น
ในขณะเดียวกัน หากผู้ลงทุนสามารถเข้าซื้อต่ำกว่าราคาเริ่มต้น 20% ผลตอบแทนสุดท้ายจะอยู่ระหว่าง $1.15 ล้าน ถึง $1.47 ล้าน ขึ้นอยู่กับระดับราคาที่ขายออก ส่วนการซื้อที่ $94,000 ให้ผลลัพธ์อยู่ในช่วง $924,000 ถึง $1.18 ล้าน
With สรุปว่า แม้จุดซื้อจะมีผลต่อระดับของผลตอบแทน แต่การเติบโตระยะยาวของ Bitcoin ต่างหากที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก "อย่ากังวลมากเกินไปกับจุดเข้าซื้อ เพราะสุดท้าย ‘เวลา’ คือปัจจัยที่ทำงานหนักให้คุณ”
สภาพคล่องโลกชี้ Bitcoin มีราคาต่ำกว่าที่ควร
แบบจำลองอีกด้านหนึ่งที่นักวิเคราะห์ใช้ประกอบ พบว่าปัจจัยในระดับโลกกำลังเอื้อให้ Bitcoin มีโอกาสปรับขึ้นระยะยาว โดยในรอบตลาดปัจจุบันสภาพคล่องทั่วโลกมีมูลค่ารวมกว่า $113 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าระดับในรอบก่อนหน้าเกือบ $7 ล้านล้านดอลลาร์
โดยปกติ สภาพคล่องที่สูงขึ้นหมายถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งจากความต้องการลงทุนและความพร้อมของเงินทุน ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้บ่งชี้การฟื้นตัวในทันที แต่ถือเป็นปัจจัยรองรับตลาดในระยะยาว
ในฝั่งการประเมินมูลค่าเชิงสภาพคล่อง นักวิเคราะห์จาก JV Finance ระบุว่า Bitcoin กำลังอยู่ในช่วง “ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควร” อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับเทรนด์สภาพคล่องทั่วโลก โดยดัชนี Liquidity gap ของ BTC ร่วงลงถึง –1.52 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเป็นระดับที่พบไม่บ่อยในตลาดขาขึ้น
จากโมเดลดังกล่าว มูลค่าที่ควรจะเป็นของ Bitcoin จะที่อยู่ราว $170,000 ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ แม้ราคาอาจแกว่งลงต่อในระยะสั้น แต่ประวัติศาสตร์ชี้ว่าความไม่สอดคล้องกันในลักษณะนี้มักเปิดโอกาสให้เกิดการฟื้นตัวในระยะยาว
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว








