ก.ล.ต. สหรัฐฯ เลื่อนการพิจารณา Bitcoin ETF ของ VanEck ไปจนถึงเดือนมิถุนายน
ก.ล.ต. สหรัฐฯ ออกมาดับฝันเหล่านักลงทุนอีกครั้ง โดยเลื่อนการพิจารณาคำร้องขอจัดตั้ง Bitcoin EFT ของ VanEck ไปอีกหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งหากพวกเขายังเลื่อนอยู่แบบนี้ ท้ายที่สุดเราอาจจะได้เห็นการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกทีในเดือนพฤศจิกายน
ก.ล.ต. สหรัฐฯ ออกมาดับฝันเหล่านักลงทุนอีกครั้ง โดยเลื่อนการพิจารณาคำร้องขอจัดตั้ง Bitcoin EFT ของ VanEck ไปอีกหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งหากพวกเขายังเลื่อนอยู่แบบนี้ ท้ายที่สุดเราอาจจะได้เห็นการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกทีในเดือนพฤศจิกายน
เหล่าผู้ที่คาดหวังว่าจะมีการตัดสินใจที่แน่ชัดเกี่ยวกับการเปิดตัว Bitcoin exchange-traded fund (ETF) หรือกองทุนรวมดัชนี Bitcoin ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จาก VanEck อาจต้องรอนานกว่าจะได้รับคำตอบที่พวกเขาต้องการ
เพราะทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ใช้สิทธิ์ที่พวกเขามีในมือ และได้เลื่อนกำหนดการตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดรับการยื่นขอทำ ETF ของ VanEck จากวันที่ 3 พฤษภาคม เป็นวันที่ 17 มิถุนายน ตามการยื่นความจำนงของคณะกรรมการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28 เมษายน)
โดย VanEck นั้นถือเป็นบริษัทที่อยู่ในระดับแนวหน้าของการพยายามสร้าง Bitcoin ETF ให้เกิดขึ้นจริงได้ในสหรัฐอเมริกา แต่ทว่าการผลักดันของบริษัทกลับไม่เห็นผลเท่าที่ควรเนื่องจากทางการสหรัฐฯ ได้ “ปฏิเสธ” คำร้องขอจัดตั้ง ETF ที่ส่งมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด
แต่ทว่าทาง VanEck ก็ไม่ยอมแพ้ และกลับมาลุยยื่นคำร้องจัดตั้งกองทุนอีกครั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และทางสำนักงาน ก.ล.ต. ก็ทำการตอบกลับ ซึ่งระบุใจความสำคัญว่ามันต้องใช้เวลาในการตรวจสอบคำร้องนี้มากขึ้น
“คณะกรรมาธิการพบว่าเป็นการเหมาะสมที่จะกำหนดระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นเพื่อดำเนินการกับการเปลี่ยนแปลงกฎที่เสนอ ซึ่งจะทำให้มีเวลาเพียงพอในการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงกฎที่เสนอ และความคิดเห็นที่ได้รับ” ผู้ช่วยเลขานุการ ก.ล.ต. J. Matthew DeLesDernier กล่าวในยื่นความจำนง
ทั้งนี้ทาง ก.ล.ต. สามารถเลื่อนกระบวนการตรวจสอบออกไปได้ถึง 240 วัน และหากใช้ไทม์ไลน์ที่ขยายออกไปนี้กับ VanEck บริษัทอาจไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจนกว่าจะถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเลยทีเดียว
กรณีของ Bitcoin ETF
เนื่องจากราคาของ Bitcoin เติบโตขึ้นอย่างมากในปีนี้ และเงินสถาบันยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัล นั่นจึงเป็นผลให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดกำลังกดดันให้สำนักงาน ก.ล.ต. ปรับท่าทีให้อ่อนลง และแนะนำผลิตภัณฑ์กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนในสหรัฐฯ สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในกระแสหลักและผลักดันให้มีกฎระเบียบที่ดีขึ้นสำหรับอุตสาหกรรม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดกล่าว
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มีการยื่นคำร้องขอจัดตั้ง Bitcoin ETF มากกว่า 8 รายการที่รอการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. จากบรรดาบริษัทที่มีชื่อเสียงที่ส่งใบสมัครของพวกเขา ซึ่งรวมไปถึง Fidelity investments ซึ่งยื่นใบสมัครอีกครั้งในเดือนมีนาคม
ที่สำคัญก็คือแคนาดานั้นได้แซงหน้าสหรัฐฯ ในการอนุมัติ Bitcoin ETF ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าหลายคนคาดการณ์ และคาดหวังว่าว่าเมื่อ Gary Gensler ได้ดำรงตำแหน่งประธาน SEC คนใหม่แบบเต็มตัว กฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอาจได้รับการปรับรูปโฉมใหม่ และแก้ไขได้เร็วขึ้น