สรุปเซสชั่น ‘Ethereum จะ Flip Bitcoin ได้ไหม?’ มองแซงได้แน่! หากสิ่งนี้เกิดขึ้น
“สมมุติมันจะมีบริษัทโผล่เข้ามามูลค่าซัก 10 Trillion ดอลลาร์ บริษัทใหม่เลยนะรวมกัน แล้วบริษัทเหล่านี้ไม่ได้สนใจหุ้น เขาสนใจออกเหรียญแทน... 10 Trillion นั้นมันต้องมีที่อยู่”
“สมมุติมันจะมีบริษัทโผล่เข้ามามูลค่าซัก 10 Trillion ดอลลาร์ บริษัทใหม่เลยนะรวมกัน แล้วบริษัทเหล่านี้ไม่ได้สนใจหุ้น เขาสนใจออกเหรียญแทน... 10 Trillion นั้นมันต้องมีที่อยู่”
Table of contents
26 พฤศจิกายน 2565 ‘อัครเดช เดี่ยวพานิช’ หรือ ‘เอ Coinman’ ประธานบริษัท Cryptomind group, และ ‘พลากร ยอดชมญาณ’ หรือ ‘ต้นฮ้อ’ ซีอีโอของ KULAP เปิดเผยมุมมองต่อในหัวข้อ ‘Ethereum จะ Flip Bitcoin ได้ไหม?’ ในงาน Blockchain Thailand Genesis 2022
บทความที่เกี่ยวข้อง - ส่อง 5 Session โคตรเดือด! ‘Blockchain Thailand Genesis’ 26-27 พ.ย.นี้ เวทีไหนดี เวทีไหนโดน มาดูกัน!
โดย Bitcoin และ Ethereum เป็น 2 เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกขณะนี้ นำโดย Bitcoin ที่มีมูลค่าทางการตลาด 3.18 แสนล้านดอลลาร์ และ Ethereum ที่มีมูลค่าทางการตลาด 1.48 แสนล้านดอลลาร์
ไม่ใช่แค่ดูมูลค่า แต่ต้องดู 'คุณค่า' ด้วย
ต้นฮ้อ ‘พลากร ยอดชมญาณ’ กล่าวว่า การ ‘Flip’ ในที่นี้คือการที่มีมูลค่าทางการตลาดขึ้นมาแซงหน้า Bitcoin อย่างไรก็ตามก็อยากจะให้มองในเรื่องของ ‘คุณค่า’ ที่หนุนหลังอยู่ด้วย
ซึ่งคุณค่าของ Bitcoin คือมาจากการขุด Bitcoin ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานและเวลาในการสร้างคุณค่า แตกต่างกับ Ethereum ในปัจจุบันที่ไม่มีการใช้พลังงานในการขุด แต่คุณค่ากลับเป็นการที่มีผู้คนเข้ามาใช้งานมากกว่า
พร้อมเปรียบเทียบกับ ‘ดอลลาร์สหรัฐฯ’ ที่ถึงแม้จะไม่มีการหนุนหลังด้วยทองคำมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังสามารถมีมูลค่าอยู่ได้จากการใช้งานทั่วทุกมุมโลก และก็ยังสามารถคงมูลค่าของตัวเองอยู่ได้และได้รับความเชื่อมั่นจากทั่วโลกแม้ไม่มีทองคำหนุนหลังอยู่ก็ตาม
Ethereum จะแซง Bitcoin ได้ไหม ขึ้นอยู่กับทิศทางคนรุ่นใหม่
เอ ‘อัครเดช เดี่ยวพานิช’ จึงตอบประเด็นดังกล่าว ระบุว่าขึ้นอยู่กับว่าอนาคตของเราจะไปอยู่ ณ จุดไหน
พร้อมกับยกตัวอย่างถึงตลาดหุ้น ว่าถ้าหากในอนาคตบริษัทรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการออกเหรียญมากกว่าการลิสต์ในตลาดหุ้นเพื่อหาทุน นั่นก็อาจจะหมายความว่าเป็นการนำมูลค่าทั้งหมดในตลาดหุ้นเข้ามาอยู่ในคริปโต
บริษัททั้งหลายในโลกเกิดมาก็ต้องมีหุ้นใช่ไหม ถ้าเรามองว่าอนาคตเนี่ยเด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ออกบริษัทในรูปแบบนั้นและ หรืออาจจะมีบริษัทก็ได้แต่สุดท้ายเขาไปออกเหรียญอะ เอามูลค่าของเขาไปอยู่ในเหรียญแทนให้คนซื้อขายลงทุนในเหรียญได้แทน
และถ้าหาก Ethereum ยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่เปิดให้ใครหรือโปรเจกต์ใดก็ได้มาออกเหรียญได้อยู่ นั่นก็จะเหมือนกับการนำเอามูลค่าตลาดหุ้นทั้งตลาดเข้ามาสู่ Ethereum ที่แม้แต่มูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดเดียวก็มีมูลค่าสูงมากกว่า 40 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว
สมมุติมันจะมีบริษัทโผล่เข้ามามูลค่าซัก 10 Trillion ดอลลาร์ บริษัทใหม่เลยนะรวมกัน แล้วบริษัทเหล่านี้ไม่ได้สนใจหุ้น เขาสนใจออกเหรียญแทน... 10 Trillion นั้นมันต้องมีที่อยู่
นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีมูลค่าที่ต่ำมากแม้แต่เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ จนสามารถเติบโตแซงมูลค่าทองทำทั่วโลกได้หลายเท่าตัวในปัจจุบัน
ตรงกันข้ามกับ Bitcoin ที่ทั้งคู่มองว่ามีทิศทางที่แตกต่างไปจาก Ethereum อย่างสิ้นเชิง โดย Bitcoin คือบล็อกเชนที่ผู้คนคาดหวังให้คงระบบต่างๆ ไว้เช่นนั้น ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ตรงกันข้ามกับ Ethereum ที่ผู้คนคาดหวังให้มีการพัฒนาระบบอยู่ตลอด
ก็คือออมใน Bitcoin แล้วก็ลงทุนใน Innovation ก็คือลงทุนใน Ethereum
มอง 'ซื้อตอนนี้ ดีกว่าซื้อตอนต้นปี'
จึงสรุปว่าสุดท้ายแล้ว Ethereum จะแซงหน้า Bitcoin ได้ไหมก็ขึ้นอยู่กับทิศทางของอนาคต ต้นฮ้อ ‘พลากร ยอดชมญาณ’ กล่าวว่าตอนนี้ตลาดคริปโตอยู่ในช่วงเริ่มต้นมาก โดยสินทรัพย์ที่สามารถราคาแกว่งได้ถึง 80% นั้นยังถึงว่าเป็นช่วง Early อยู่ พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า อย่างน้อยๆ เข้าซื้อตอนนี้ก็ยังดีกว่าซื้อปีที่แล้ว
พูดตอนนี้กล้าชิวระดับนึงแล้วกัน ว่าถ้าใครสนใจเริ่มเก็บเริ่ม DCA ผมมองว่ามันดีมากกว่าคนที่ซื้อตอนต้นปี เหตุผลที่จะไม่ซื้อมันมีน้อยกว่า ถ้าคิดว่าตลาดนี้จะไม่ตายไปไหน
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว