ย้อนเหตุการณ์! ทำไมชาวเน็ตรายนี้ ถึงเสียเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตไห้กับ ‘Ledger มือสอง’

หลังจากที่ประเด็นเรื่อง Ledger กำลังร้อนระอุจากการเปิดตัว ‘Ledger Recovery’ ฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ ‘ฝาก Seed phrase’ ไว้กับบริษัท Ledger เผื่อว่าวันใดผู้ใช้ทำ Seed phrase หายจะได้กลับมากู้คืนได้ แต่หลายฝ่ายกลับมองว่าเป็นการลดทอนความปลอดภัยของ Ledger เอง และไม่ควรหยิบมาใช้อีกต่อไป

อ่านข่าวต่อ - สรุปประเด็น 'Ledger' เกิดอะไรขึ้นวันนี้? ทำไมกูรูทั่วโลกแนะให้โยน Ledger ในมือทิ้งไปซะ!? - CryptoSiam

CryptoSiamNews https://twitter.com/CryptoSiamNews/status/1658818407779950592

วันนี้ CryptoSiam จึงจะพาไปย้อนรอยเหตุการน่าสนใจเมื่อกว่า 5 ปีที่แล้ว ที่ผู้ใช้งานรายหนึ่งต้องสูญเสียเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตไปกับ ‘Ledger มือสอง’ ที่ซื้อมาจาก eBay ไปได้

โดยผู้ใช้รายดังกล่าวโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านเว็บบอร์ด Reddit เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2018 เป็นการขอความช่วยเหลือหลังตกเป็นเหยื่อการขโมยคริปโตรูปแบบที่ไม่ค่อยเห็นกันได้บ่อยๆ คือการขโมยคริปโตผ่าน Hardware wallet มือสอง

ฉันไม่ได้ใช้ Ledger มาสักสัปดาห์ได้แล้ว แต่วันนี้ฉันตัดสินใจจะเช็คมูลค่า XRP, Litecoin กับ Dash ของฉันหน่อย แต่ปรากฏว่ามูลค่าทั้งหมดเหลือ 0 และถูกโอนไปไหนไม่รู้เมื่อวานนี้ ฉันไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรเนื่องจากฉันไม่ได้ใช้มันมาเป็นสัปดาห์แล้ว

โดยข้อสรุปพบว่าผู้ใช้รายดังกล่าวตกเป็นเหยื่อของการขโมยคริปโต หลังจากซื้อ Ledger มือสองมาจากเว็บไซต์ eBay และผู้ไม่ประสงค์ดีแอบนำ Recover seed เข้าไปใน wallet ดังกล่าว แทนที่จะใช้ Seed phrase ที่สุ่มขึ้นมาจากทางผู้ผลิตเอง ทำให้สามรถเข้าถึง wallet ได้ และสามารถขโมยคริปโตออกไปได้หมดในที่สุด

ในโพสต์ดังกล่าว ‘murzika’ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Ledger ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าว และเสนอความช่วยเหลือในการนำตัวผู้ขาย Hardware wallet ดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้

Hardware wallet ก็ไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้น!

แม้การใช้ Hardware wallet ยังเป็นวิธีการเก็บคริปโตรูปแบบหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงสุด แต่เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการใช้ Hardware wallet อาจจะไม่ได้ปลอดภัย 100% หากผู้ใช้ไม่ระมัดระวังเพียงพอ รวมไปถึงผู้ใช้งานก็ต้องระมัดระวังและติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ แม้ว่าคริปโตของตนจะอยู่ใน Hardware wallet ก็ตาม

เช่นกันกับความเคลื่อนไหวของ Ledger เมื่อไม่นานมานี้ ก็ยิ่งเป็นที่ชัดเจนว่าผู้ใช้ควรจะติดตามข่าวสารคริปโตตลอด เพื่อจะได้ไหวตัวทันหากมีอะไรไม่ชอบมาพากล หรืออาจจะกระทบต่อคริปโตในกระเป๋าเราได้