เราจะซื้อที่ดินเสมือน (Virtual Land) ใน Metaverse ได้ที่ไหนและอย่างไร?

Metaverse กำลังสร้างปรากฎการณ์ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของ ซื้อขาย รวมทั้งปรับแต่งอย่างล้ำลึกได้ในอนาคตเสมือน ซึ่งปัจจุบันนี้การลงทุนในท่ีดินดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก

การซื้อที่ดินเสมือน (Virtual Land) ใน Metaverse เป็นเรื่องใหม่มากสำหรับหลายๆ คน แต่ก็อาจเป็นการซื้อที่คุ้มค่า วันนี้คริปโตสยามจะจะอธิบายถึงที่ดินใน Metaverse ว่ามันคืออะไร และซื้อขายได้อย่างไร

Metaverse คืออะไร?

Metaverse ถือเป็นอินเทอร์เน็ตในยุคต่อไปที่เราจะได้เห็นการผสานความเป็นจริงเสมือน Virtual Reality (VR) Augmented Reality (AR) และ Extended Reality (XR) กับโลกแห่งความเป็นจริง

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ Metaverse เป็นเหมือนคอลเล็กชันของโลกเสมือนจริงที่มีความสัมพันธ์กัน เช่นเดียวกับที่ World Wide Web เป็นจุดเชื่อมต่อของเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกัน

โลกอินเทอร์เน็ตอาจเปลี่ยนโลกจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากมีการพัฒนาอย่างเต็มที่แล้ว มนุษย์อาจปรากฏตัวร่วมกับผู้อื่นแบบเสมือนจริงได้ และมีความสามารถในการเคลื่อนที่ไปมาระหว่างพื้นที่เสมือน โดยใช้อวาตาร์และสิ่งของดิจิทัลอื่นๆ รวมถึงการใช้คริปโตเคอร์เรนซีแทนสกุลเงินแบบปกติ 

Metaverse คาดว่าจะเปลี่ยนไปในทุกอุตสาหกรรม และจะให้กำเนิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ นับไม่ถ้วน ส่งผลให้มันอาจกลายเป็นพื้นที่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับการลงทุน

นักลงทุนหันมาสนใจที่ดินเสมือน (Virtual Land)

Metaverse เริ่มได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook รีเแบรนด์เป็น Meta และบริษัท Microsoft กระตือรือร้นที่จะดำเนินการธุรกิจเกี่ยวกับ Metaverse

เช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิมที่มักจะรักษามูลค่าไว้แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ คุณสมบัติ metaverse ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาบิทคอยน์ (BTC) และสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ จะปรับตัวลง

ความนิยมของ Non-fungible token (NFT) รวมถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมออนไลน์นั้นขัดแย้งกับจำนวนที่จำกัดของที่ดินในโลกเสมือนจริงใน metaverse ซึ่งทำให้ที่ดินเหล่านี้มีราคาสูงขึ้นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น Decentraland มีจำนวนที่ดินประมาณ 90,000 ผืนเท่านั้น

Virtual Land คืออะไร และคุณสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง?

นักลงทุนใช้เงินจริงเพื่อซื้อที่ดินที่มีอยู่ในโลกเสมือน ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างสิ่งที่พวกเขาต้องการบนที่ดินของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้จากการซื้อขายสินค้าและบริการด้วยสกุลเงินดิจิทัลในโลกเสมือนจริง  นักลงทุนยังสามารถปล่อยให้เช่าพื้นที่โฆษณา การจัดคอนเสิร์ต และอื่น ๆ ได้อีกมากมาย กล่าวได้ว่าที่ดินเสมือนสามารถสร้างรายได้จากมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึง passive income อีกด้วย

ทำไมผู้คนถึงซื้อ Virtual Land?

สินทรัพย์ประเภทใหม่

อสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ทำให้เป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าดึงดูด สินทรัพย์ดิจิทัลมีศักยภาพที่จะเป็นสินทรัพย์ทางการเงินคล้ายกับงานศิลปะในโลกแห่งความเป็นจริง และอสังหาริมทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง

FOMO (Fear Of Missing Out)

FOMO หรือ Fear Of Missing Out คือ ความกลัวที่อาจพลาดโอกาสบางอย่างไป นักลงทุนบางรายอาจรู้สึกว่าพวกเขาพลาดโอกาสการลงทุนไป เช่น หลายคนอาจพลาดการซื้อบิทคอยน์ตอนที่ราคาถูกมาก ทำให้พวกเขามองหาผลิตภัณฑ์ทางเลือก เช่น ที่ดินเสมือนจริง (virtual land)

ผลตอบแทนมหาศาล 

จักรวาลการลงทุนในคริปโตในขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายปีที่ผ่านมา ที่ดินเสมือนจริงจึงมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนมหาศาลได้ ความสะดวกในการซื้อขายที่ดิน และตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนจำนวนมากได้รับเงินหลายพันดอลลาร์ในระยะเวลาอันสั้น

โอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติม

ที่ดินเสมือนเปิดโอกาสใหม่ๆ ในระยะยาวได้ เช่น การสร้างหอศิลป์ การทำแคมเปญโฆษณา หรือเพียงแค่ให้เช่าเพื่อให้ผู้อื่นสร้างและสร้างรายได้ ผู้ใช้บางคนอาจสร้างคาสิโนเสมือนจริงบนดินแดนเสมือนของพวกเขา ผู้ค้าปลีกรายใหญ่กำลังมองหาความเป็นไปได้ในการเปิดร้านในรูปแบบเสมือนจริง

ง่ายกว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์

อสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลยังหลีกเลี่ยงปัญหาหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เช่น เอกสารจำนวนมาก การบำรุงรักษาที่ดิน และภาษีที่ต้องชำระ การใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการตรวจสอบการซื้อที่ดินได้อีกด้วย

เข้าถึงได้ง่าย (Low entry barrier)

ราคาที่ดินกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่ราคาที่ดินเสมือนจริงให้ผลประโยชน์ที่เทียบเท่ากับที่ดินจริง ๆ โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 1% การซื้อที่ดินเสมือนยังสามารถเข้าถึงได้มากกว่าการซื้อที่ดินจริง ซึ่งต้องใช้เงินก้อนใหญ่อีกด้วย

เราจะซื้อที่ดินเสมือนได้จากที่ไหนบ้าง?

ปัจจุยันมีโลกเสมือนมากมายรอบตัวที่เราไม่รู้ นับตั้งแต่เปิดตัว Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) หลายบริษัทได้เดินหน้าเพื่อสร้างโลกเสมือนจริงที่สามารถดูได้ โดยใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่ชุดหูฟัง และนี่คือผู้เล่นหลักในพื้นที่สำหรับการซื้อที่ดินเสมือน (Virtual Land)

Decentraland (MANA)

Decentraland เป็นตลาดซื้อขายเสมือนที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum เมื่อสิ้นปี 2021 ได้ทำสถิติที่น่าประทับใจโดยมีผู้ใช้งานประมาณ 300,000 รายต่อเดือน และจำนวนผู้ใช้งานรายวันถึง 18,000 รายเลยทีเดียว

Decentraland เป็นโลกเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อคเชนของ Ethereum ที่ผู้ใช้สามารถพัฒนาและเป็นเจ้าของได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้จากเนื้อหา สัมผัสประสบการณ์ การเข้าร่วมกับชุมชนชาวโลกเสมือนจริงที่กำลังเติบโต ซึ่งกำลังสร้างเศรษฐกิจทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนบล็อคเชน ในร้านค้านี้ คุณสามารถซื้อและขายที่ดินเป็นโทเค็นดั้งเดิมอย่าง MANA ได้

ที่ดินผืนบน Decentraland ที่ถูกขายไปในราคาแพงที่สุดคือ Amazing ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.3 ล้านดอลลาห์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

Axie Infinity (AXS)

AXS หรือ Axie Infinity Shards เป็นโทเค็นของเกมส์ Axie Infinity เกมส์บล็อกเชนของ Ethereum ที่สร้างขึ้นบนระบบ ERC-20 เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่มีโมเดลแบบ play-to-earn (P2E) และการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเกมส์ NFT และคริปโตเคอร์เรนซี่ ทำให้ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทุกคนสามารถรับโทเค็นผ่านการเล่นเกม โดยใช้ทักษะและการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ ผู้เล่นสามารถต่อสู้ สะสม เลี้ยง และสร้างอาณาจักรสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ สินทรัพย์ทางศิลปะและข้อมูลทางพันธุกรรมของ Axie ทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยบุคคลที่สาม ทำให้นักพัฒนาชุมชนสามารถสร้างเครื่องมือ และประสบการณ์ของตนเองในจักรวาล Axie Infinity ได้

ความนิยมของเกมส์ ไม่น่าแปลกใจที่สิ่งมีชีวิตจาก Axie Infinity จะซื้อขายในราคาที่สูงมาก Mystic Axie ขายได้ในราคามากถึง 300 ETH หรือปัจจุบัน 1.1 ล้านดอลลาห์สหรัฐเลยทีเดียว

Sandbox (SAND)

Sandbox คือ Metaverse เสมือนที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum ซึ่งผู้เล่นสามารถสร้าง เป็นเจ้าของ และสร้างรายได้จากประสบการณ์การเล่นเกมของพวกเขา โทเค็นดั้งเดิมของ Sandbox คือ SAND ซึ่งเป็นโทเค็นยูทิลิตี้ ERC-20 ที่ใช้สำหรับการโอน รวมถึง staking และการกำกับดูแล

ราคาที่ดินเฉลี่ยบน The Sandbox เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา การขายที่ดินที่แพงที่สุดใน Metaverse เกิดขึ้นที่ The Sandbox นั่นเอง โดยมีการซื้อที่ดินไปมูลค่าประมาณ 4.3 ล้านดอลลาห์

สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับการซื้อที่ดินเสมือนจริงใน Metaverse

เมื่อพูดถึงการซื้อที่ดินเสมือนจริง หรือแม้กระทั่งสกุลเงินดิจิทัลหรือ NFT ผลกำไรอาจจะไม่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่หลังจากที่เกิดวิกฤตโคโรนาไวรัส ผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้าสู่ระบบนิเวศนี้ และกำลังสำรวจวิธีใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ ในขณะที่บางคนทำกำไรจากคริปโตได้จำนวนมากในช่วงปีที่แล้ว ปัจจัยเหล่านี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าจะมีส่วนทำให้เกิดตลาดกระทิงสำหรับที่ดินเสมือนจริง

ปัจจุบัน การซื้อที่ดินเสมือนจริงมาพร้อมกับความเสี่ยงในตัวเอง นักลงทุนส่วนใหญ่และบริษัทหลายแห่ง กำลังซื้อที่ดินเสมือนจริง เพื่อสร้างรายได้ หรือเพื่อติดตามคนดังที่พวกเขาชื่นชอบ

ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้นักลงทุนรายย่อยทำเช่นนี้ เนื่องจากที่ดินเสมือนจริงมีมูลค่าเมื่อมีผู้ซื้อเต็มใจจ่ายราคาเท่านั้น พวกเขาอาจสูญเสียการลงทุนทั้งหมด หากราคาที่ดินเสมือนจริงลดลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากไม่ใช่ทุกส่วนของโลก Metaverse จะมีประชากรทั้งหมด พื้นที่บางแห่งอาจเต็มไปด้วยผู้คนและบริษัท แต่บางพื้นที่ก็เหมือนเมืองร้าง

แม้ว่าอุตสาหกรรมคริปโต รวมถึง NFT และ Metaverse จะได้รับความนิยมสูง แต่การลงทุนในที่ดินดิจิทัลนั่นเป็นเรื่องใหม่ อย่าลืมว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลนั้นขึ้นอยู่กับความนิยม โปรเจ็คที่เกิดขึ้น การใช้งานและราคาของโทเค็นด้วย ทำให้ที่ดินเสมือนมีความผันผวนอย่างมาก เมื่อเทียบกับที่ดินแบบดั้งเดิม นักลงทุนจึงควรลงทุนด้วยความรอบคอบ

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ