VeVe ประกาศหยุดให้บริการหลังพบพฤติกรรมต้องสงสัย
ผู้ใช้งานเริ่มต่อว่าตลาดซื้อขายชื่อดังที่ทำให้ราคาของสะสมดิจิทัลมีมูลค่าลดลง หลังเกิดเหตุโจรกรรมครั้งใหญ่จนทำให้ Veve ประกาศหยุดให้บริการในเวลาต่อมา
ผู้ใช้งานเริ่มต่อว่าตลาดซื้อขายชื่อดังที่ทำให้ราคาของสะสมดิจิทัลมีมูลค่าลดลง หลังเกิดเหตุโจรกรรมครั้งใหญ่จนทำให้ Veve ประกาศหยุดให้บริการในเวลาต่อมา
ตลาดซื้อขาย Non-Fungible Token (NFT) ชื่อดังออกมาประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทวิตเตอร์ของบริษัท เมื่อวันพุธที่ 23 มีนาคม พร้อมกับยอมรับว่าพบการพฤติกรรมต้องสงสัยบนแพลตฟอร์มของตนจริงเมื่อวันอังคารที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยผู้ที่เข้ามาโจมตีแอปพลิเคชันนั้นได้วางแผนที่จะขโมย Gems หรือ โทเคนบนแอปพลิเคชันนับล้านเหรียญไปอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลให้ทาง VeVe ประกาศหยุดให้บริการ เร่งดำเนินการเข้าตรวจสอบ Gems ทั้งหมดที่มีบนเครือข่ายในทันที และทางบริษัทจะยังไม่เปิดให้บริการจนกว่าจะสามารถหาต้นตอของเรื่องทั้งหมดนี้ได้
หัวขโมยอาจฉวยโอกาสจากการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหมดอายุ
การโจรกรรม Gems หรือ โทเคนประจำตลาดซื้อขาย VeVe ที่ผู้ใช้งานนำไปใช้แลกเปลี่ยนสินค้าบนแพลตฟอร์มในรูปแบบของสะสมดิจิทัลครั้งใหญ่นี้ ได้สร้างบทเรียนครั้งสำคัญให้กับทางบริษัทได้อย่างมากเลยทีเดียว จะเห็นได้จากรายงานก่อนหน้านี้ได้ชี้ให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์ที่ได้แฝงตัวเข้ามาแปลง Gems หลายล้านเหรียญออกไปจากเครือข่าย โดยปราศจากการจ่ายเงินเพื่อแลกมันมา ซึ่งอาชญากรได้ฉวยโอกาสจอาศัยความบกพร่องของระบบการซื้อขายบนแอปพลิเคชันเพื่อก่อคดีดังกล่าวขึ้นนั่นเอง โดยชาว Twitter รายหนึ่งได้โพสต์ผ่านบัญชีส่วนตัวของเขา พร้อมตั้งข้อสังเกตุลักษณะการก่อคดีของคนร้ายจากเรื่องราวของเพื่อนที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ว่า เพื่อนของเขาบังเอิญซื้อ Gems โดยใช้บัตรเครดิตที่หมดอายุ แต่ก็ยังสามารถทำธุรกรรมต่อไปได้จนเสร็จสมบูรณ์ อาจเป็นไปได้ว่าหัวขโมยจะใช้ช่องโหว่ที่เกิดขึ้นบนระบบฉวยโอกาสเข้ามาขโมยโทเคนในจังหวะนี้ก็เป็นได้
ข้อสันนิษฐานจากชาวทวิตเตอร์
ปัจจุบันแพลตฟอร์มได้เข้าดำเนินการระงับบัญชีผู้ใช้งานหลายรายที่พบพฤติกรรมต้องสงสัยในการพยายามเข้าซื้อ Gems ราคาถูกผ่านบัญชีที่เปิดไว้เพื่อก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะ แม้ว่าแพลตฟอร์ม NFT ชื่อดังรายนี้จะไม่ได้ออกมาเปิดเผยถึงจำนวน Gems ที่ถูกขโมยไปก็ตาม แต่ทว่า ชาว Twitter อีกรายหนึ่งก็ได้ออกมาสันนิษฐานว่าโทเคนอาจถูกโจรกรรมไปด้วยจำนวนหลายล้านเหรียญ และนี่อาจเรียกได้ว่าเป็นการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดบนแพลตฟอร์มเลยกว่าได้
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายอื่น ๆ ยังได้ออกมาเปิดเผยช่วงเวลาของเหตุการณ์การบุกเข้าโจรกรรม ซึ่งไทม์ไลน์ได้เริ่มต้นขึ้นจากทาง VeVe ที่ได้มีการลงทะเบียนการซื้อขาย Gems ครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 3 วัน ส่งผลให้ราคาของโทเคนดิ่งลงมากว่าครึ่ง จากเดิม 0.5 เหลือเพียง 0.25 เท่านั้น หลังจากนั้นทางแพลตฟอร์มจึงเร่งเข้าตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน
ราคา NFT ร่วงยับหลัง VeVe ประกาศหยุดให้บริการ
การฉวยโอกาสขโมย Gems บน VeVe ในครั้งนี้ ยังส่งผลให้ราคาของสะสมดิจิทัลในรูปแบบ NFT บนแพลตฟอร์มนั้นตกลงมาอย่างมหาศาล ซึ่งหนึ่งในผู้ใช้งานแอปพลิเคชันรับรู้ได้ถึงสาเหตุที่ทำให้ผลงานของเขามีราคาลดลงมากกว่า 80% ภายใน 1 สัปดาห์หลังจากที่ได้ทำการโพสต์จำหน่ายอย่างเป็นทางการลงบนแอปพลิเคชันของ VeVe
ผลงานล่าสุดจากตลาด VeVe
Veve Digital Collectibles เป็นแอปพลิเคชัแลกเปลี่ยนของสะสมดิจิทัลแบบ Limited Edition มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานสามารถดำเนินการซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือแม้แต่ปรับแต่งสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองได้อย่างอิสระ พร้อมกันนี้ทางแพลตฟอร์ยังได้ดึงแบรนด์ดังจำนวนมากให้เข้ามาร่วมลงนามเป็นพันธมิตร และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมบนโลกดิจิทัล ซึ่งแบรนด์ที่ได้ตบเท้าเข้ามาร่วมสร้างประสบการณ์ครั้งใหม่นี้ ได้แก่ Marvel, Pixar, Coca-Cola, Batman, Adventure Time, Monster Hunter, NFLPA, DC Collectibles, Star Trek, Jurassic Park, Fast and the Furious, Back to the Future, Ultraman, Superman และ อีกมากมาย
แน่นอนว่าผลงานล่าสุดบนแพลตฟอร์มของ VeVe ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากบรรดาแฟน ๆ คงจะหนีไม่พ้นคอลเลกชันล่าสุดของ Pixar ที่เพิ่งเปิดตัวไป เมื่อวันที่ 13 มีนาคม โดยในคอลเลกชันจะประกอบไปด้วยคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนขวัญใจผู้ชมจาก Pixar จำนวนทั้งหมด 54,995 ชิ้น แน่นอนว่าความพิเศษยังไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ทางบริษัทยังได้จัดจำหน่ายผลงานในลักษณะของกล่องสุ่มเพื่อให้แฟนคลับได้ร่วมลุ้นว่าพวกเขาจะได้รับคาแรกเตอร์ตัวไหนไปครอบครอง ซึ่งภายในเวลาแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเท่านั้นคอลเลกชันดังกล่าวถูกกว้านซื้อไปจนหมดเกลี้ยง ทำรายได้ให้กับสตูดิโอภาพยนต์แอนิเมชันรายยักษ์ไปได้กว่า 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ