เปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ เงินดอลลาร์ยังคงคุมตลาดไว้มากกว่า Bitcoin
อัตรา Bitcoin Dominance ที่ 61% ในตลาดคริปโต และ 3.17% ในตลาดโลก ยังเทียบชั้นสกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้
อัตรา Bitcoin Dominance ที่ 61% ในตลาดคริปโต และ 3.17% ในตลาดโลก ยังเทียบชั้นสกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้
อัตรา Dominance
อัตราการครองตลาดหรือ Dominance นั้นเป็นตัวชี้วัดของสินทรัพย์ต่างๆ รูปแบบหนึ่งที่เปรียบเทียบส่วนแบ่งของสินทรัพย์ ต่อสินทรัพย์ชนิดอื่นภายในตลาด โดยตัวชี้วัดดังกล่าวนี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของตลาดได้หลากหลาย ตั้งแต่การเปลี่ยนมือของเงินทุนจากสินทรัพย์ชนิดหนึ่งไปสู่อีกชนิด ไปจนถึงความั่นใจของนักลงทุนในสินทรัพย์ชนิดนั้นๆ เป็นต้น
Bitcoin Dominance
อัตราดังกล่าวของสกุลเงินคริปโตอย่าง Bitcoin นั้นก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้คนในวงการเช่นกัน โดยตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นนั้น Bitcoin เป็นผู้ครองอันดับหนึ่งในแง่ของปริมาณเม็ดเงินที่อยู่ในตลาด Bitcoin เมื่อเทียบกับเหรียญอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปและตลาดคริปโตได้เติบโตขึ้น ทำให้อัตราดังกล่าวนั้นลดลงเรื่อยๆ ตามปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าสู่เหรียญอื่น ๆ
ในปัจจุบันนี้ อัตรา Bitcoin Dominance นั้นอยู่ที่ 61% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบปี และยังดูเหมือนว่าอัตราดังกล่าวยังคงมีท่าทีลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจมีที่มาจากความนิยมในเหรียญรอง หรือ Altcoins ต่างๆ โดยเฉพาะเหรียญหลักอย่าง Ethereum ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองจากกระแส DeFi นั่นเอง
เงินดอลลาร์ในตลาดคริปโต
เมื่อพิจารณาอัตราการครองตลาดของเหรียญอื่น ๆ แล้วจะพบว่าในช่วงที่ผ่านมานี้ เหรียญ Stablecoin ซึ่งมีกองทุนสำรองเพื่อหนุนอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดอลลารนั้นได้มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Tether, USDC หรือแม้แต่ DAI ส่งผลให้อัตราการครองตลาดของเหรียญซึ่งอิงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์นั้นอยู่ที่ 5% เลยทีเดียว
เงินดอลลาร์ในตลาดโลก
อย่างที่ทราบกันดีว่าสกุลเงินดอลลาร์นั้นเป็นสกุลเงินหลักที่ทั่วโลกได้ใช้เป็นสกุลเงินสำรองของประเทศ โดยคิดเป็นอัตรา 61.99% ของอัตราสกุลเงินทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.8 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว และเมื่อเทียบกับตลาดของ Bitcoin และตลาดคริปโตนั้นได้มีส่วนแบ่งตลาดโลกรวมที่ 3.17% และ 5 % คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.16 แสนล้านดอลลาร์ และ 3.56 แสนล้านดอลลาร์ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามกระแสการแข่งขันในตลาดสกุลเงินนั้นยังคงเข้มข้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ประเทศทางฝั่งเอเชียอย่างจีนนั้นได้มีบทบาทในระบบเศรษฐกิจรวมของโลกมากขึ้น โดยประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่มีกองทุนสำรองเป็นสกุลเงินสหรัฐฯมากที่สุดในโลกที่ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับที่ได้มีการเปิดตัวสกุลเงินหยวนดิจิทัลไปอีกด้วย จึงเป็นคำถามต่อไปว่าสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯนั้นจะยังคงยืนหยัดเป็นอันดับหนึ่งของตลาดได้อีกนานแค่ไหนนั่นเอง
