ผลสำรวจเผยว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ Meta เป็นเจ้าของข้อมูลใน Metaverse

การสำรวจผู้บริโภคชาวสหรัฐอเมริกา 1,000 คนเกี่ยวกับความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน metaverse ได้เปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าสนใจบางประการ

จากการสำรวจของ Advokate Group ผู้ให้บริการ non-fungible token และโครงสร้างพื้นฐาน metaverse ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบ 87% ต้องการ metaverse แบบกระจายอำนาจบนบล็อคเชนมากกว่าโปรเจ็คใหญ่ที่วางแผนโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี 

รายงานนี้เผยชัดเจนมากขึ้นเมื่อ 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามแชร์ความกังวลเกี่ยวกับการเข้าสู่ metaverse ของ Facebook โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเจ้าของข้อมูล metaverse ของผู้ใช้

ประวัติที่ไม่ดีของ Facebook กับการจัดการข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อย่างไม่ถูกต้อง ได้ทำลายแผนเดิมของการเปิดตัวเหรียญ stablecoin ที่เรียกว่า Diem แล้ว โครงการ Stablecoin ได้เผชิญกับการพิจารณาอย่างหนักจากรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา และในที่สุดโครงการก็ถึงจุดสิ้นสุด ความกังวลที่คล้ายคลึงกันนี้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับโปรเจ็ค Metaverse 

ในแง่ของระยะเวลาที่ metaverse สามารถกลายเป็นกระแสหลักนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจ 20% เชื่อว่าอาจใช้เวลา 1-2 ปี ในขณะที่ 49% กล่าวว่าอาจใช้เวลานานถึง 3-6 ปี นอกจากนี้การเล่นเกมยังเป็นตัวเลือกหลักในการใช้เวลาใน metaverse ตามด้วยการเข้าสังคม และผู้ตอบแบบ 55% กล่าวว่าพวกเขาจะใช้เวลามากกว่าสามชั่วโมงต่อวันใน metaverse

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังแสดงความสนใจในการทำเงิน ขณะที่เล่นเกมในรูปแบบการเล่นเพื่อสร้างรายได้ (play-to-earn) อีกด้วย  93% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า พวกเขาจะใช้เวลาเล่นเกมมากขึ้น หากสามารถทำเป็นค่าแรงขั้นต่ำได้ ขณะที่ 64% กล่าวว่าพวกเขาจะใช้เวลามากกว่าสามชั่วโมง หากพวกเขาทำเงินจริง และ 87% จะเปลี่ยนมาเล่นเกมเต็มเวลา หากค่าตอบแทนดี

Metaverse เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในปี 2021 และตอนนี้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายใหญ่หลายราย ไม่ว่าจะเป็น Apple, Facebook หรือ Google กำลังวางแผนที่จะเปิดตัว หรือลงทุนในระบบนิเวศแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนคริปโตที่สำคัญกำลังต่อต้านการเข้ามาของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ต้องการควบคุมจากส่วนกลาง  เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าแนวคิดของการกระจายอำนาจจะเป็นสิ่งสำคัญ