อัปเกรด The Merge แค่เริ่มต้น? เตรียมพบการยกระดับ Ethereum อีกมากมายในอนาคต!

การอัปเกรดครั้งสำคัญของเครือข่าย Ethereum ที่ใช้ชื่อว่า The Merge จะมีขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2022 โดยเป็นการปรับเปลี่ยนกลไกการทำงานจาก Proof-of-Work (PoW) เป็น Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเครือข่าย Ethereum และทำให้เครือข่ายนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

การอัปเกรด The Merge เป็นแค่จุดเริ่มต้น

Vitalik Buterin หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Ethereum ระบุว่า การอัปเกรด “The Merge” นั้นเป็นเพียง 40% ของการอัปเกรดทั้งหมดบนเครือข่าย Ethereum และยังมีอะไรอีกมากมายที่จะตามมาหลังจากการอัปเกรดที่จะเกิดขึ้นในข่วงเดือนกันยายน 2022 นี้

ในการประชุม Ethereum Community Conference (EthCC) ของชุมชน Ethereum ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum อย่าง Vitalik Buterin ได้ออกมาแบ่งปันวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับการพัฒนาเครือข่าย Layer1 ในอนาคต 

Buterin ระบุว่า “การอัปเกรด The Merge ของเครือข่ายในครั้งนี้จะเป็นการรวม Ethereum mainnet กับ Beacon chain เข้าด้วยกัน และจะเปลี่ยนกลไกการทำงานของเครือข่ายให้เป็นแบบ Proof-of-Stake (PoS) โดยการอัปเกรดนี้จะเป็นการอัปเกรดครั้งที่ 1 จาก 5 ชุดการอัปเกรดที่เขาวางแผนไว้”

แผนการเพิ่มเติมหลังจากการอัปเกรด The Merge

Buterin ได้ให้ชื่อที่ใช้สำหรับเรียกการอัปเกรดลำดับถัดไปที่คล้องจองกันไว้ ดังนี้ 

1. The Merge (คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2022)
2. The Surge
3. The Verge
4. The Purge
5. The Splurge

Buterin กล่าวเพิ่มเติมอีกที่ประชุมว่า “หลังจากการอัปเกรด The Merge ที่เสร็จสมบูรณ์ เครือข่าย Ethereum ก็จะได้รับการอัปเกรดในลำดับถัดไปที่เรียกว่า Surge, Verge, Purge และ Splurge”

Buterin เน้นย้ำว่า “แม้ชื่อเรียกการอัปเกรดอาจจะฟังดูเหมือนชื่อตอนของ “Rick and Morty” แต่ Surge, Verge, Purge และ Splurge นั้นจะเป็นส่วนสำคัญของการปรับขนาด การจัดการข้อมูลและวิวัฒนาการของเครือข่าย Ethereum”

“ผู้สนับสนุน Bitcoin ถือว่าสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 นั้นมีความสมบูรณ์ประมาณ 80% แต่ Buterin ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนของ Ethereum เชื่อว่า Ethereum นั้นมีความสมบูรณ์เพียง 40% และหลังจากการอัปเกรด The Merge ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ เครือข่าย Ethereum จะมีความสมบูรณ์ประมาณ 55%“ Buterin กล่าว

การประมวลผลธุรกรรม 100,000 รายการต่อวินาที คือเป้าหมาย

The Surge นั้นเป็นความปราถนาของ Buterin ที่จะทำให้ Ethereum กลายเป็นเครือข่ายที่ทรงพลังและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเขาตั้งใจที่จะการยกระดับประสิทธิภาพของเครือข่ายด้วยการทำ Sharding ซึ่งเป็นโซลูชันการปรับขนาดที่ Ethereum Foundation ตั้งใจจะเปิดใช้งานบล็อกเชน Layer2 ซึ่งจะทำให้เครือข่ายสามารถจัดการกับธุรกรรมได้รวดเร็ว รองรับธุรกรรมได้มากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยให้เครือข่ายและยังเป็นการช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายลงอีกด้วย 

Buterin ยังกล่าวอีกว่า “เมื่อการอัปเกรดต่างๆ นั้นเสร็จสิ้น เครือข่าย Ethereum ก็จะได้รับประโยชน์และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้เร็วขึ้นเช่นกัน”

“ในปัจจุบัน เครือข่าย Ethereum นั้นสามารถประมวลผลได้ประมาณ 15-20 รายการต่อวินาที แต่หลังจากการอัปเกรดที่เสร็จสมบูรณ์ Ethereum จะสามารถประมวลผลธุรกรรมได้สูงถึง 100,000 รายการต่อวินาที” 

The Verge จะใช้สิ่งที่ Buterin เรียกว่า "Verkle Trees" และ “Stateless Clients" การอัพเกรดทางเทคนิคเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นผู้ตรวจสอบเครือข่ายโดยไม่ต้องจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากบนอุปกรณ์ของตน ซึ่งในเครือข่าย Proof-of-Stake ผู้ตรวจสอบธุรกรรมจะต้องนำเหรีญ ETH มาล็อคไว้เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ยืนยันและตรวจสอบธุรกรรม โดย Buterin มองว่าวิธีการนี้นั้น“ยอดเยี่ยมสำหรับการกระจายอำนาจ”

The Purge จะเกี่ยวข้องกับการล้างประวัติที่เกิดขึ้นเครือข่ายเก่า โดย Buterin กล่าวถึงขั้นตอนดังกล่าวว่า “การล้างข้อมูลนั้นจะเป็นการพยายามลดจำนวนพื้นที่จริงที่คุณต้องมีในฮาร์ดไดรฟ์ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้เครือข่าย Ethereum นั้นสามารถปรับขยายได้ง่ายขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปและไม่ต้องการโหนดใดๆ เพื่อเก็บประวัติ” 

แล้ว The Splurge ล่ะ? 

Buterin กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “มันคือเรื่องสนุกอีกมากมายที่รออยู่"