🇹🇭 ข่าวในประเทศ

ป.ป.ช. เปิด 8 ข้อเสนอแนะ! ที่รัฐบาลควรพิจารณา เกี่ยวกับนโยบายแจกเงิน

ป.ป.ช. ส่งข้อเสนอแนะ 8 ข้อ ให้รัฐบาลพิจารณา! เกี่ยวกับ 'นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท'

ป.ป.ช. ส่งข้อเสนอแนะ 8 ข้อ ให้รัฐบาลพิจารณา! เกี่ยวกับ 'นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท' หลังมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่าน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีแถลงการณ์แห่งความคืบหน้าเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดย ป.ป.ช. ได้มีมติเห็นชอบให้ส่งผลการศึกษาเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ทั้งหมด 100 กว่าหน้า ไปยังรัฐบาลเพื่อเรียนนายกรัฐมนตรีให้ประกอบการสินใจ

โดยในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณี การเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet” เพื่อศึกษารายละเอียดผลกระทบและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานดังกล่าว

4 ประเด็นที่ควรพิจารณา

ทั้งนี้จากการศึกษาจึงได้พบว่า นโยบายดังกล่าวมี 4 ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่

  1. ประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริต ทั้งในด้านการทุจริตเชิงนโยบาย และการทุจริตจากกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงิน
  2. ประเด็นความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญต่อการดำเนินนโยบายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  3. ประเด็นความเสี่ยงของกฎหมาย โดย ป.ป.ช ได้ย้ำว่าการดำเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล จะต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่ให้อำนาจเอาไว้ และต้องมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนโปร่งใสปราศจากการทุจริต
  4. ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน และการกำหนดนโยบายของพรรคการเมือง 

ข้อเสนอต่อรัฐบาล

และต่อมาหลังจากที่มีการประชุมอีกครั้งเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติว่าควรส่งข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล  กรณี การเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ต่อคณะรัฐมนตรี โดยได้มีข้อเสนอแนะจำนวน 8 ข้อได้แก่

  1. เสนอให้แสดงความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ได้รับประโยชน์ ที่ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเปราะบาง และจะต้องมีขั้นตอนและวิธีการที่ชัดเจนเพื่อกระจายการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง
  2. เสนอให้ กกต. ทำการตรวจสอบว่าการปรับเปลี่ยนเนื้อหานโยบายของพรรคการเมือง นั้นมีการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
  3. เสนอให้พิจารณาความคุ้มค่าจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว และให้ลองพิจารณาวิธีอื่นที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากการกู้เงินจำนวนกว่า 5 แสนล้านบาทนั้นเป็นการสร้างหนี้ระยะยาว
  4. เสนอให้พิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อนโยบาย และย้ำถึงการดำเนินการนโยบายที่จะต้องสามารถตรวจสอบ ทั้งก่อน, ระหว่าง, และหลังโครงการได้อย่างโปร่งใส
  5. เสนอให้มีการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันการทุจริต
  6. เสนอให้พิจารณาถึงความจำเป็นและเหมาะสมต่อการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ที่เกี่ยวกับงบประมาณและระยะเวลาที่จะต้องใช้ในการพัฒนาระบบ ที่ควรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในระยะเวลาในการดำเนินโครงการ ที่จะเป็นการแจกเงินครั้งเดียวโดยให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน
  7. รัฐบาลควรพิจารณาและให้ความสำคัญต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน ที่ยังอยู่ในขั้นชะลอตัว เพื่อดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน โดยหากรัฐบาลต้องดำเนินการนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต ก็เสนอให้พิจารณาช่วยเหลือกลุ่มประชาชนเป้าหมายที่เปราะบางที่สุดเป็นอันดับสำคัญ
  8. หากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือประชาชน ควรช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่มีฐานะยากจน, เปราะบาง ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เท่านั้น โดยโดยแจกเงินจากเงินงบประมาณปกติ เพื่อเป็นการไม่สร้างหนี้สินสาธารณะของประเทศในระยะยาว

ที่มา: ThaiPost

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รอบนี้ไม่อาจเหมือนเดิม? นักวิเคราะห์ เผย RSI ของ Bitcoin บ่งชี้ว่าอาจมีราคาสูงถึง $233,000 ในปี 2025
วาฬ Bitcoin ยุคบุกเบิกเคลื่อนย้าย BTC มูลค่า 630,000 ดอลลาร์สู่ Kraken รวม 5.5 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียงสองเดือน
Bitcoin พุ่งทะลุ 64,000 ดอลลาร์! นักลงทุนสาย Short ถูกบังคับปิดสถานะกว่า 3.8 พันล้านบาท
Samara Asset Group เตรียมลงทุนใน Bitcoin ด้วยพันธบัตรมูลค่ากว่า 33 ล้านดอลลาร์