ตลท.ย้ำชัดแพลตฟอร์มตัวใหม่ขอไม่ยุ่งคริปโต
ตลาดหลักทรัพย์ไทย หรือ ตลท.ย้ำชัด แม้จะเปิดแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตัวใหม่ แต่จะขอไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีอย่างแน่นอน
ตลาดหลักทรัพย์ไทย หรือ ตลท.ย้ำชัด แม้จะเปิดแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตัวใหม่ แต่จะขอไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีอย่างแน่นอน
เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ย้ำชัดผ่านการให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว Bloomberg ถึงประเด็นการเปิดตัวแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง โดยปราศจากการดึงสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาใช้ พร้อมทั้งเผยว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการส่งออกในไทยในปี 2022 เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เริ่มลดลง ซึ่งหากแนวโน้มดังกล่าวยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็อาจส่งผลดีต่อแผนการเปิดตัวแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนตัวใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน
ตลท.ย้ำชัดขอโฟกัสไปที่ Token เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ออกมาประกาศวางกรอบกลยุทธ์ระหว่างปี 2565 – 2567 ภายใต้แนวคิด “เชื่อมโยงตลาดทุน มุ่งสร้างโอกาสใหม่” พร้อมเผยถึงแผนการเปิดตัวแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง ควบคู่ไปกับการเพิ่มทางเลือกในการบริการรูปแบบใหม่ เช่น Investment Token และ Utility Token เข้าไปไว้บนแพลตฟอร์มดังกล่าว เนื่องจากโทเคนเหล่านี้กำลังกลายเป็นที่ต้องการในตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมไปถึงการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการจะนำโทเคนประเภทดังกล่าวมาใช้เพื่อระดมทุนนั่นเอง
ทั้งนี้ ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อยื่นเรื่องอนุมัติการเปิดแพลตฟอร์มของตลท. โดยนายภากรได้คาดว่าแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตัวใหม่นี้จะสามารถเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปีนี้อย่างแน่นอน
ตลท.ไม่ยุ่งเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังนั้น นายภากรได้ออกมาย้ำชัดถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการพุ่งความสนใจไปที่การให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจะไม่มีการดึงสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้เขาได้ออกมาระบุว่า
“SET มองว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีคุณสมบัติไม่ตรงกับบริการขององค์กร รวมไปถึงอาจก่อให้เกิดการฟอกเงินพร้อมกันกับสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตลาดหุ้นในฐานะแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่มีความน่าเชื่อถือสูงด้วยเช่นเดียวกัน”
นอกจากนี้ทางตลท. ยังได้ออกมาเผยถึงการยุบรวมแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหุ้นเข้ากับแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนสามารถแปลงสินทรัพย์คริปโตของพวกเขาให้กลายเป็นเงินสดได้ ก่อนจะเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเช่นเดียวกัน
การจูงใจให้ผู้คนหันมาใช้แพลตฟอร์มตัวใหม่ของตลท.
หลังจากการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของตลท. ทำให้ผู้คนจำนวนมากตั้งคำถามกลับมาว่า หากไม่ยุ่งเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีแล้วนั้น การเปิดตัวของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในลักษณะนี้จะสามารถจูงใจผู้คนได้อย่างไร นายภากรจึงได้ออกมาให้คำตอบผ่านการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ว่า
“จุดแข็งของตลาดหลักทรัพย์ไทยก็คือเครื่องมือที่เราใช้ในการลงทุน และทางเรากำลังมองหาหนทางที่จะเชื่อมต่อแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเพื่อแปลงสกุลเงินดิจิทัลให้กลายมาเป็นเงินสด เพื่อนำมาลงทุนกับสินทรัพย์ดิจิทัล และสินทรัพย์ในรูปแบบเดิมของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นกลยุทธ์ในการทำธุรกิจของตลท.บนตลาดคริปโตเคอเรนซีนั่นเอง”
กลยุทธ์ทั้ง 3 ข้อที่จะปูทางให้ตลท.เชื่อมการลงทุนเข้ากับโลกดิจิทัล
แน่นอนว่าโลกดิจิทัลนั้นได้เข้าดิสรัปต์ไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยก็ได้เริ่มตื่นตัวและมีการคิดกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจให้สามารถเดินควบคู่ไปกับโลกดิจิทัลได้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาตลาดทุนที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนได้ในทุกภาคส่วนต่อไปในอนาคต รวมไปถึงยังคงสานต่อการสนับสนุนภาคธุรกิจให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมภายในประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อเชื่อมต่อการลงทุนเข้ากับโลกดิจิทัลให้ได้ในที่สุด โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดของ 3 กลยุทธ์ที่ทางตลท.ใช้ในการพัฒนาระบบการเงินของประเทศเพิ่มเติมได้ ผ่านบทความของ CryptoSiam ในชื่อ “ตลาดหลักทรัพย์ไทยเปิดศูนย์เทรดคริปโตในปีนี้แน่”