เหรียญ UST ของ Terra แซงหน้า BUSD ขึ้นมาเป็น Stablecoin อันดับ 3 ของโลกแล้ว
เหรียญ stablecoin ที่มีชื่อว่า TerraUSD (UST) ได้แซงหน้า Binance USD (BUSD) ไปแล้วในมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และได้กลายเป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก
เหรียญ stablecoin ที่มีชื่อว่า TerraUSD (UST) ได้แซงหน้า Binance USD (BUSD) ไปแล้วในมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และได้กลายเป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เหรียญ stablecoin ที่มีชื่อว่า TerraUSD (UST) ได้แซงหน้า Binance USD (BUSD) ไปแล้วในมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และได้กลายเป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก โดยมีมูลค่าตลาดในขณะนี้ที่ 17.50 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า BUSD ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 17.46 พันล้านดอลลาร์อยู่เพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการซื้อขายจริงของ UST จะอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับเหรียญอื่น ๆ โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 261 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นอันดับห้าในบรรดาเหรียญ Stablecoins ปริมาณการซื้อขายของโทเค็นที่กล่าวไปนั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของจำนวนทั้งหมดที่เห็นใน USDT และ USDC แต่ยังคงน้อยกว่า BUSD และ DAI ตามข้อมูลจาก Coinmarketcap
ปริมาณการซื้อจายบ่งชี้ได้ว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่เพิ่มขึ้นของ UST นั้นเชื่อมโยงกับปริมาณสำรองและการหมุนเวียนโทเค็นมากกว่าอุปสงค์ที่แท้จริงสำหรับโทเค็น และในปัจจุบัน Anchor Protocol (ANC) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่ใหญ่ที่สุดของ Terra ได้ถือครองอุปทาน UST เกือบสองในสามผ่าน Staking และเงินฝาก
ทำไมอุปทานของเหรียญ UST ถึงเพิ่มขึ้น?
ชุมชน Terra อย่าง Luna Foundation Guard (LFG) ได้เพิ่มทุนสำรองอย่างต่อเนื่อ เพื่อสนับสนุน UST โดยประเด็นสำคัญของเรื่องนี้คือการเผาเหรียญ LUNA ให้เป็นเหรียญ UST เนื่องจาก UST มีการตรึงด้วยอัตราส่วน 1:1 แบบตายตัวต่อดอลลาร์ ทำให้การสร้างโทเค็นจำนวนมากขึ้น จึงไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคา
ในทางกลับกัน การสร้าง UST ใหม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของโทเค็นนั้น ๆ มากกว่า ผลกระทบจากภาวะเงินฝืดที่ปกติจะเกิดขึ้นจากการสร้างโทเค็นใหม่
ข้อมูลจาก Terra Analytics แสดงให้เห็นว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อุปทานของ UST ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 800 ล้านโทเค็น ซึ่งสอดคล้องกับมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นถึง 800 ล้านดอลลาร์ และด้วยอัตราการเผาเหรียญ LUNA ในช่วงเวลานั้นก็คงที่เช่นกัน ยกเว้นการปล่อย 10 ล้านโทเค็นออกจากอุปทานที่ไม่หมุนเวียน
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?
ข้อมูลนั้นระบุว่าแม้จะมีการผลิตเหรียญอย่างต่อเนื่อง แต่เป้าหมายของ Do Kwon ผู้ก่อตั้ง Terra ในการทำให้ UST เป็น Stablecoin ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดนั้นก็ยังห่างไกลจากเป้าหมาย และด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องของ LFG ในการสนับสนุนเงินสำรองของพวกเขายังสร้างแรงกดดันด้านราคาให้กับ LUNA ซึ่งราคาร่วงลง 14% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของ ANC ก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องผลตอบแทน 20% ของโปรโตคอล เมื่อเงินฝากที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อเงินสำรองและอาจนำไปสู่ปัญหาสภาพคล่องที่ร้ายแรงได้ จึงทำให้การตรึงของ UST นั้นไม่เสถียรนัก
แต่ ANC ก็ได้ใช้มาตรการจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยมีการลงคะแนนการให้ผลตอบแทนแบบไดนามิก และโปรโตคอลยังได้เพิ่มการรองรับบล็อคเชนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องอีกด้วย
DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ