ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

FED ชี้ความต้องการ Stablecoin ที่พุ่งในปัจจุบัน อาจช่วยกดอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว

FED ชี้ความต้องการ Stablecoin ที่พุ่งในปัจจุบัน อาจช่วยกดอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว

Stephen Miran ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ระบุว่าความต้องการ Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการกด “อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง” ให้ลดลง พร้อมคาดว่ามูลค่าตลาด Stablecoin ทั่วโลกอาจแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี

Stephen Miran ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Governor) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี Donald Trump กล่าวว่าความต้องการใช้เหรียญ Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินลดลง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่งาน BCVC Summit ในนครนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Miran อธิบายว่า Stablecoin กำลัง “สร้างแรงกดดันให้กับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Neutral Rate หรือ r-star)” ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ที่ไม่กระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว และไม่ชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจ หาก r-star ลดลง ธนาคารกลางก็จะมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามไปด้วย

“ความต้องการของ Stablecoin ทำให้เกิดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และสินทรัพย์สภาพคล่องอื่น ๆ ที่อ้างอิงดอลลาร์ในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ถือครองนอกสหรัฐฯ และแนวโน้มนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง” Miran กล่าว

Stephen Miran กล่าวในงานประชุมที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ( ที่มา : BCVC )
Stephen Miran กล่าวในงานประชุมที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ( ที่มา : BCVC )

“Stablecoin อาจกลายเป็นช้างตัวใหญ่ในห้องประชุมของธนาคารกลาง ซึ่งจะมีมูลค่าตลาดระดับหลายล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

Stablecoin กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ระบบการเงินโลก

ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่ามูลค่ารวมของ Stablecoin ทั้งตลาดอยู่ที่ประมาณ 3.107 แสนล้านดอลลาร์ ในปัจจุบัน ขณะที่งานวิจัยภายในของ FED ประเมินว่าตลาดนี้อาจขยายตัวถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปีข้างหน้า

องค์กรระหว่างประเทศอย่าง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เคยเตือนว่า Stablecoin อาจกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับระบบการเงินดั้งเดิม เพราะสามารถดึงดูดลูกค้าจากธนาคารและบริการชำระเงินแบบดั้งเดิม ขณะที่กลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐสภาเพิ่มการกำกับดูแลเหรียญ Stablecoin ที่ให้ผลตอบแทน (Yield-Bearing Stablecoins) เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อระบบการเงิน

GENIUS Act วางกรอบกฎหมายใหม่ผลักดันการใช้งาน Stablecoin

Miran ยังกล่าวชื่นชม กฎหมาย GENIUS Act ที่เพิ่งผ่านการรับรองในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นกรอบกฎหมายแรกของสหรัฐฯ ที่กำหนดหลักเกณฑ์การออกและการค้ำประกัน Stablecoin อย่างเป็นระบบ

“แม้ผมจะเป็นคนที่มักระมัดระวังต่อการออกกฎระเบียบใหม่ ๆ แต่ผมมองว่า GENIUS Act เป็นก้าวสำคัญที่สร้างความชัดเจนและความน่าเชื่อถือให้กับ Stablecoin ซึ่งถือเป็นการยกระดับให้เทียบเท่าสินทรัพย์ดอลลาร์แบบดั้งเดิม” Miran กล่าว

กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ผู้ออก Stablecoin ที่อยู่ในสหรัฐฯ ต้องถือสินทรัพย์ค้ำประกันเต็มมูลค่า (1:1) ด้วยสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและมีความปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลและเงินฝากดอลลาร์ ซึ่ง Miran ระบุว่ามาตรการนี้จะมี “ผลสำคัญต่อทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต”

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

FED ชี้ความต้องการ Stablecoin ที่พุ่งในปัจจุบัน อาจช่วยกดอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว
นักวิเคราะห์เทียบแรงเทขาย Bitcoin และตลาดคริปโต คล้ายฟองสบู่ดอตคอมปี 2000
วาฬยุคเก่าทยอยเทขาย Bitcoin หนัก เสี่ยงฉุดราคาลงแตะ 90,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์เตือนหาก “Bitcoin ทะลุ $250,000 ภายใน 3 เดือน” อาจกลายเป็นหายนะของตลาด