เกาหลีใต้ระบุถึงกลยุทธ์ 5 ปี โดยต้องการเป็นผู้นำระดับโลกด้าน metaverse
กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ประกาศถึงกลยุทธ์ห้าปี เพื่อเป็นประเทศชั้นนำทางด้าน metaverse ระดับโลก
กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ประกาศถึงกลยุทธ์ห้าปี เพื่อเป็นประเทศชั้นนำทางด้าน metaverse ระดับโลก
กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีถึงกลยุทธ์ห้าปี เพื่อเป็นผู้นำการแข่งขัน metaverse ระดับโลก
เกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำด้าน Metaverse
เกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะผลิตผู้เชี่ยวชาญ 40,000 คนในสาขา metaverse เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้อยู่ในประเทศชั้นนำห้าอันดับแรกในตลาด metaverse ทั่วโลก
กระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีใต้ (MSIT) กล่าวว่า metaverse เดียวมีศักยภาพในการสร้างงานมากกว่า 1.5 ล้านตำแหน่งโดยไม่เกี่ยวข้องกับโลกความเป็นจริง
ข้อมูลจาก MSIT เผยว่า ตลาด VR ของประเทศเกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 36% ในปี 2018 และคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2024
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเติบโตของ Metaverse ทำให้รัฐบาลต้องปกป้องผู้ใช้จากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น การล่วงละเมิดทางเพศและการแสวงประโยชน์ โดยจะมีการกำหนดแนวทางสำหรับทุกโปรเจ็คที่จะต้องปฏิบัติตาม
บริษัทยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียอย่าง Meta ซึ่งมีชื่อเดิมคือ Facebook กล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ metaverse เนื่องจากสังคมเปิดกว้าง ความสามารถในการผลิตฮาร์ดแวร์ รวมถึงการสร้างเนื้อหาน่าสนใจด้วย
เมืองโซลพร้อมที่จะเข้าสู่จักรวาลนฤมิต
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา รัฐบาลกรุงโซล (SMG) ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า โซลจะเป็นเมืองใหญ่เมืองแรกที่เข้าสู่โลกจักรวาลนฤมิต
'Metaverse Seoul' ตั้งใจที่จะสร้างระบบนิเวศการสื่อสารเสมือนจริงสำหรับทุกพื้นที่ของการบริหารเทศบาล ซึ่งจะรวมถึงเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การศึกษา และการบริการพลเมือง ในสามขั้นตอนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
Metaverse คือโลกเสมือนจริง 3 มิติที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้โดยใช้อุปกรณ์เสมือนจริง แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนเปลี่ยนกิจกรรมทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19
เมืองหลวงของเกาหลีใต้ได้ลงทุน 3.9 พันล้านวอน คิดเป็นประมาณ 2.8 พันล้านยูโรในโครงการนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน Seoul Vision 2030 ทางด้านนาย Oh Se-hoon นายกเทศมนตรีกล่าวว่า โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้โซลเป็น “เมืองแห่งการอยู่ร่วมกัน เป็นผู้นำระดับโลก เมืองที่ปลอดภัย และเป็นเมืองแห่งอารมณ์ในอนาคต”
หากโครงการนี้เป็นจริง ชาวโซลจะสามารถสวมชุดหูฟัง VR เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ของเมือง เพื่อขอคำปรึกษาแบบเสมือนจริงได้ในไม่ช้า พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมงานมวลชนได้อีกด้วย