ข่าวต่างประเทศ

สิงคโปร์รุก! วางมาตรการควบคุมกำกับคริปโตใหม่

7ryppzk1qv8.jpg

เจ้าหน้าที่การเงินในประเทศสิงคโปร์ได้เดินหน้าให้ความสำคัญกับการวางมาตรการควบคุมกำกับพื้นที่คริปโตเคอร์เรนซี่มากขึ้นแล้ว

เจ้าหน้าที่การเงินในประเทศสิงคโปร์ได้เดินหน้าให้ความสำคัญกับการวางมาตรการควบคุมกำกับพื้นที่คริปโตเคอร์เรนซี่มากขึ้นแล้ว

วางแนวทางควบคุมกำกับคริปโต

โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการปรับพื้นที่คริปโตเคอร์เรนซี่ให้สอดคล้องกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางประเทศสิงคโปร์ โดยที่ทางธนาคารกลางได้มีการสอบถามพูดคุยกับบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี่เกี่ยวกับข้อมูลในการดำเนินกิจการเพิ่มเติม รวมไปถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ประเทศสิงคโปร์จะเริ่มให้ความสำคัญกับการปรับมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มีความชัดเจนทางด้านการเงินมากขึ้น รวมไปถึงมีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคริปโตมากขึ้น

Vbcvcwuyvym 1 1024x742.jpg

บริษัทคริปโตเคอร์เรนซี่จะต้องมีการจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์โดยตรง สอดคล้องกับสำนักข่าว Bloomberg ที่ได้ออกมาเปิดเผยว่า ธนาคารกลางได้มีการส่งแบบสอบถามเกี่ยวกับแนวทางการควบคุมกำกับคริปโตเคอร์เรนซี่แบบสุ่ม เพื่อดูความเห็นของแต่ละคนว่าคิดอย่างไรกับมาตรการดังกล่าว เช่นกันเจ้าหน้าที่ควบคุมกำกับการเงินได้มีการสอบถามบริษัทต่าง ๆ ที่ดำเนินกิจการทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่ นอกจากเป็นบริษัทที่เปิดให้บริการซื้อขายคริปโตแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพุ่งเป้าไปยังบริษัทที่มีการเปิดให้ปล่อยกู้คริปโตด้วย

ต้องให้คนส่วนใหญ่ตระหนักถึงความเสี่ยง

สำหรับการพูดคุยสอบถามของเจ้าหน้าที่ควบคุมกำกับการเงินนั้น ประกอบไปด้วยการดำเนินกิจการต่อไปหลังจากที่ได้มีการอนุมัติมาตรการในการควบคุมคริปโตเคอร์เรนซี่แล้ว และมีการชี้แจงว่าที่ทำไปก็เพราะต้องการให้คนส่วนใหญ่ตระหนักถึงความเสี่ยงในการลงทุนคริปมากขึ้น ปัจจุบันประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่เป็นแม่เหล็กทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่เป็นอย่างมาก เวลานี้แม้ว่าสถานการณ์ตลาดคริปโตจะมีความผันผวน รวมไปถึงมีบริษัทบางแห่งที่เจอกับภาวะล้มละลาย แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ยังสามารถฝ่าฟันมรสุมตรงนี้ไปได้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Canary Capital เตรียมเปิดตัว Spot XRP ETF ครั้งแรกในสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้
BitMine กว้านซื้อ Ether เพิ่ม 34% ในสัปดาห์เดียว มูลค่าคลังสะสมพุ่งแตะ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
กองทุน Bitcoin และ Ether ETF ไหลออก 1.7 พันล้านดอลลาร์ แต่แรงซื้อจากวาฬช่วยพยุงราคาไว้เหนือ $100,000
FED ชี้ความต้องการ Stablecoin ที่พุ่งในปัจจุบัน อาจช่วยกดอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว