สรุปวิกฤต ‘Silvergate’ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? แล้วทำไมถึงกระทบคริปโตหนัก?
สรุปให้แล้ว! วิกฤต Silvergate คืออะไร? ทำธุรกิจประเภทไหนกันแน่? แล้วทำไมถึงส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตได้ถึงขนาดนี้ พร้อมเปิดไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นเรื่อง!
สรุปให้แล้ว! วิกฤต Silvergate คืออะไร? ทำธุรกิจประเภทไหนกันแน่? แล้วทำไมถึงส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตได้ถึงขนาดนี้ พร้อมเปิดไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นเรื่อง!
Table of contents
ไม่นานมานี้คงได้ยินข่าวเกี่ยวกับ ‘Silvergate’ กันมาบ้างแล้ว บ้างก็ว่ามีเอี่ยว FTX บ้างก็ว่าเป็นโดมิโน่ตัวต่อไปจากวิกฤตสารพัดที่เกิดขึ้นในโลกคริปโต
อ่านข่าวต่อ - ยังไม่จบ! Silvergate ถูกตรวจสอบ - คาดว่ามีจุดเชื่อมโยงกับคดี FTX
แล้วจริงๆ Silvergate ทำอะไรกันแน่? แล้วทำไมถึงเกี่ยวข้องกับตลาดคริปโตได้มากมายขนาดนี้?
Silvergate คือใคร?
‘Silvergate’ เป็นธนาคารเพื่อการกู้ยืมสำหรับภาคธุรกิจ โดยพักหลังเหมือนจะเน้นไปยังฝั่งคริปโตอย่างมาก จนมีลูกค้าที่อยู่ในตลาดคริปโตเข้ามาใช้บริการมากมาย
อ้างอิงจาก Barron’s ก่อนเกิดปัญหาทั้งหลายทั้งปวง ธ.มีลูกค้าเป็นเว็บเทรดคริปโตอยู่ถึง 94 แห่ง และนักลงทุนสถาบันอยู่อีก 894 ราย…
และที่สำคัญเลย คือ Silvergate มีบริการพิเศษในชื่อว่า ‘Silvergate Exchange Network (SEN)’
โดย SEN ก็คือเครือข่ายที่เชื่อมโยงระหว่าง Exchange คริปโตต่างๆ ให้สามารถแลกเปลี่ยนเงิน fiat กันได้แบบ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด และแลกเปลี่ยนสำเร็จได้แบบแทบจะ Real-time (ถ้าเป็นธนาคารปกติจะมีเวลาเปิด-ปิดให้บริการ แล้วก็ยังใช้เวลานานกว่าธุรกรรมจะสำเร็จ)
ไตรมาส 3 ปี 2022 มีผู้นำเงินเข้ามาฝากใน ‘SEN’ แล้วกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.2 แสนล้านบาท จากลูกค้าสถาบันทั้งหมด 1,677 ราย ซึ่งรวมไปถึง Exchange คริปโตเจ้าใหญ่ๆ มากมาย
กลิ่นเริ่มตุๆ
ปัญหาเริ่มต้นมาจาก FTX… ถ้าใครจำกันได้หลังเกิดเรื่อง FTX ได้ใหม่ๆ คนพากันแห่ถอนเงินออกจาก Exchange คริปโตกันยกใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจ exchange แล้วหรืออะไรก็ตาม และแน่นอน exchange เหล่านั้นก็ต้องไปถอนเงินออกมาจาก Silvergate มาคืนลูกค้า
ก่อนจะไปไกลกว่านี้ มาเท้าความฝั่ง Silvergate ก่อน…
สำหรับเครือข่าย SEN แล้ว "Silvergate จะเอาเงินฝากลูกค้า ไปลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากๆ" อย่างเช่นหุ้นกู้, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย แต่ต้องรอให้ครบระยะเวลาที่กำหนดไว้เสียก่อนถึงได้กำไร
ทีนี้เมื่อ Silvergate ถูกบังคับให้คืนเงินฝาก จากการที่ Exchange ต่างๆ มาขอถอนเงินแล้ว ธนาคารจึงจำเป็นต้องขายพันธบัตรัฐบาลที่ถือไว้อยู่ และนั่นจึงเท่ากับขาดทุน แล้วก็เข้าเนื้อไปไม่ใช่จำนวนน้อยๆ
จนทำให้ Silvergate อาจถูกลดเกรดลงมาจาก ‘well capitalized’ (มีทุนสำรองสูง) สู่ ‘adequately capitalized’ (มีทุนสำรองเพียงพอ)
เริ่มวุ่นวาย
จนวันที่ 2 มีนาคม ทุกอย่างก็เริ่มวุ่นวาย หลังจากที่ Silvergate ทำเรื่องขอเลื่อนการยื่นรายงานงบการเงินต่อ SEC สำหรับปี 2022 พร้อมกับระบุว่า “ผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้บริษัทต้องดำเนินธุรกิจต่อไปในสถานะ *Going concern”
*Going concern คือสถานะทางการบัญชี ที่มีความหมายนัยๆ ว่าบริษัทอาจมีปัญหาด้านงบการเงิน จนไปไม่รอดในอีก 12 เดือน - Wolf Street
จากนั้นเอง ในวันเดียวกัน บริษัทคริปโตต่างๆ ต่างพากันยกขโยงขอยุติการใช้บริการ SEN พร้อมกัน ทั้ง Coinbase, Circle, Paxos, Crypto.com, Bitstamp, Cboe Digital Markets, Galaxy Digital และ Gemini (นั่นหมายความว่าสถานการณ์ของ Silvergate จะย่ำแย่ลงไปอีก)
Silvergate มีหุ้นลิสต์อยู่ในตลาด NYSE ซึ่งราคาหุ้นก็ร่วงลงไปถึง -58% จากราคาปิดวันที่ 1 มี.ค. ที่ $13.53 สู่ราคาปิดวันที่ 2 มี.ค. ที่ $5.75 ขึ้นแท่นหุ้น Top looser อันดับ 1 ประจำวัน
อ่านข่าวต่อ - งานเข้า! หุ้น Silvergate ลดฮวบ 31% - หลังยื่นรายงานประจำปีล่าช้า
นั่นจึงหมายความว่าถ้าหาก Silvergate ยังได้รับผลกระทบจนขาดทุนมากขนาดนี้ต่อไป อะไรจะเกิดขึ้นกับธนาคารต่อก็ไม่มีใครทราบได้ และที่น่ากลัวคือไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเงินที่ Exchange ต่างๆ ฝากไว้อยู่…
อ้างอิง: Matt Levine/Bloomberg