เทรดเดอร์สาย Short โดนล้างพอร์ตไปมูลค่ากว่า $270 ล้านจากราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นอย่างกะทันหัน

ต้อนรับเดือนตุลาคมอันสดใส เมื่อวานนี้ราคาบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุระดับ 47,000 ดอลลาห์ภายในเวลาชั่วโมงเดียว ก่อนที่ปรับตัวขึ้นต่อไปในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมาเหนือ 48,000 ดอลลาห์ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามการพุ่งขึ้นของราคาอย่างกะทัน ทำให้เทรดเดอร์ที่ถือสถานะขาย (short position) โดนล้างพอร์ตไปจำนวนมาก

เหตุการณ์ “Short squeeze” จากราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจาก bybt แสดงให้เห็นว่า ราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อวานนี้ ทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่เกิดการล้างพอร์ต (liquidation) ในเวลาอันรวดเร็ว เป็นมูลค่าประมาณ 403.48 ล้านดอลลาห์เลยทีเดียว มูลค่าการล้างพอร์ตทั้งหมดนี้ มาจากการเปิดสถานะขาย (short position) จำนวน 270 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ และการเปิดสถานะซื้อ (long position) จำนวน 133.12 ล้านดอลลาห์

สำหรับการล้างพอร์ตในสถานะขายที่เกิดขึ้น มาจากบิตคอยน์คิดเป็นจำนวน 172.6 ล้านดอลลาห์ ส่วนสกุลเงินดิจิทัลอันดับสองอย่างอีเธอร์เรียมคิดเป็นมูลค่า 61.7 ล้านดอลลาห์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “short squeeze” ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์พุ่งขึ้นสูงอย่างมาก จนทำให้เทรดเดอร์ที่ถือสถานะขาย (short position) ไม่สามารถทนกับการขาดทุนได้ หรือโดนล้างพอร์ตจนเกิดการปิดสถานะ short พร้อมกันจำนวนมาก และทำให้ราคาสินทรัพย์ยิ่งพุ่งขึ้นแรงต่อไปอีก

เดือนตุลาคมจะเป็นเดือนของบิตคอยน์หรือไม่?

จากสถิติที่ผ่านมา เดือนกันยายนมักจะเป็นเดือนที่สกุลเงินดิจิทัลหลักมีการปรับฐาน โดย 9 ปีที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ให้ผลตอบแทนรายเดือนในเดือนกันยายนที่ติดลบถึง 7 ปี ยกเว้นเพียงปี 2015 และ 2016 เท่านั้นที่สามารถให้ผลตอบแทนรายเดือนในแดนบวกได้

ขณะที่เดือนตุลาคม ตลาดมักจะมีการดีดตัวกลับ ซึ่งข้อมูลจาก bybt ด้านล่างแสดงให้เห็นว่า บิตคอยน์ให้ผลตอบแทนรายเดือนในเดือนตุลาคมเป็นบวกถึง 6 ปี และมีเพียง 2 ปี คือปี 2018 และ 2014 เท่านั้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบ ตลาดสามารถเริ่มต้นเดือนใหม่ได้อย่างงดงามโดยเพิ่มขึ้นถึง 9.04% ซึ่งเราต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสิ้นสุดเดือนได้อย่างสดใสหรือไม่ หากบิตคอยน์ทำราคาปิดรายเดือนในแดนบวกได้ ก็จะถือว่าเป็นปีที่ 7 จากทั้งหมด 9 ปีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขในอดีตเท่านั้น และผลตอนแทนในอดีตไม่สามารถนำมายืนยันผลตอบแทนในอนาคตได้ นักลงทุนและเทรดเดอร์จึงควรพิจารณาจากแนวโน้มและปัจจัยอื่น ๆ ด้วยความรอบคอบ