ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

ระวัง! การโจรกรรมผ่านระบบสุ่มคำศัพท์บน Smart Phone

How to Turn off Predictive Text 1078x674 1.jpg

จะเกิดอะไรขึ้น? หากมือถือของคุณดันแนะนำคำศัพท์ใหม่ที่สามารถเอื้อให้แฮ็กเกอร์ก่อคดีโจรกรรมผ่านระบบสุ่มคำศัพท์ แล้วสูบเงินไปจากกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณได้

Andre ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ชาวเยอรมันวัย 33 ปี เพิ่งออกมาโพสต์ข้อความของเขาลงในกลุ่ม r/CryptoCurrency บน Reddit หลังจากค้นพบว่าโทรศัพท์มือถือของเขาสามารถทำนายวิธีการกู้คืนระบบ Seed Phrase ได้ทั้งหมด ทันทีที่เขาพิมพ์คำศัพท์คำแรกลงไปเท่านั้น หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณเตือนครั้งใหม่ของการก่อคดีโจรกรรมผ่านระบบสุ่มคำศัพท์บนมือถือ?

Seed Phrase คืออะไร?

Seed Phrase หรือ การสุ่มชุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ จากข้อเสนอการปรับปรุงระบบบิทคอยน์ (Bitcoin Improvement Protocol - BIP39) ประกอบไปด้วยคำศัพท์กว่า 2,048 คำ เพื่อสร้าง Master Private Key ขึ้นมาให้ผู้ใช้งานสามารถกู้ Private Key หรือ สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองใน Wallet แบบกระจายศูนย์ได้ นอกจากนี้ BIP39 ยังทำหน้าที่เสมือนด่านป้องกันไม่ให้บรรดาแฮ็กเกอร์สามารถเจาะระบบโดยไม่ได้รับอนุญาตได้นั่นเอง

แฮ็กเกอร์จะสามารถก่อคดีโจรกรรมผ่านระบบสุ่มคำศัพท์ได้อย่างไร?

ผู้ใช้งาน Reddit รายดังกล่าวพยายามออกมาเตือนผู้ใช้งานรายอื่น ๆ รวมไปถึงกลุ่มผู้ใช้งานคริปโตให้ระมัดระวังการโจรกรรมในลักษณะนี้เป็นพิเศษ โดย Andre ได้ย้ำว่าระบบดังกล่าวได้เอื้อให้บรรดาแฮ็กเกอร์สูบเงินทั้งหมดในกระเป๋าดิจิทัลของผู้ใช้งานรายต่าง ๆ ไปได้อย่างง่ายได้ เพียงแค่พิมพ์คำศัพท์แรกจากหนึ่งในรายชื่อของ BIP39 เท่านั้น ทั้งนี้เขาได้ออกมากล่าวเพิ่มเติมว่า

“ระบบดังกล่าวได้เอื้อให้แฮ็กเกอร์สามารถโจมตีเหยื่อได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยพวกคุณสามารถทดลองดูได้ง่าย ๆ เพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา แล้วเริ่มกดเข้าไปยังแอปพลิเคชันแชทเจ้าใดก็ได้ จากนั้นเริ่มพิมพ์คำศัพท์จาก BIP39 ลงไป แล้วลองดูว่าโทรศัพท์ของคุณจะแนะนำอะไร”

นอกจากนี้ การทดลองของ Andre ยังสามารถยืนยันได้ว่า แป้นพิมพ์ GBoard จาก Google นั้นเป็นแป้นพิมพ์ที่มีช่องโหว่น้อยที่สุด เนื่องจากซอฟต์แวร์ไม่สามารถคาดเดาคำศัพท์ในลำดับต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่ แป้นพิมพ์ Swiftkey ของ Microsoft รวมไปถึงแป้นพิมพ์จาก Samsung นั้นสามารถคาดเดาคำศัพท์ได้อย่างแม่นยำในทันทีที่เริ่มดำเนินการ ด้วยระบบ Auto replace และ Suggest text correction ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดใช้งานได้ด้วยตนเอง

Andre ทราบได้อย่างไรว่าสามารถโจรกรรมผ่านระบบสุ่มคำศัพท์ได้?

Andre ได้เริ่มก้าวเข้ามาสู่วงการคริปโตเป็นครั้งแรกในปี 2015 และเริ่มค่อย ๆ เลิกสนใจสินทรัพย์เหล่านี้ไปในช่วงหนึ่ง ก่อนจะกลับมาหวนคืนสู่วงการดังกล่าวอีกครั้งหลังจากรู้ว่าสามารถซื้อสินค้า และบริการด้วย Bitcoin (BTC) และเหรียญดิจิทัลสกุลอื่น ๆ ได้ ซึ่ง Andre ได้ตัดสินใจที่จะซื้อ และถือครง Bitcoin รวมไปถึงเหรียญ Altcoin สกุลอื่น ๆ ไว้บนพอร์ตโฟลิโอ เช่น Terra (LUNA), Algorand (ALGO) และ Tezos (XTZ) ก่อนจะจัดสรรสัดส่วนของเหรียญดังกล่าวให้เทียบเท่ากับเหรียญ BTC เมื่อราคาของสินทรัพย์เหล่านี้ทะยานขึ้นสูงอีกครั้ง นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT รายนี้ยังได้พัฒนาเหรียญดิจิทัล และโทเคนของตนเองเป็นงานอดิเรกในยามว่างอีกด้วย

The Trezor Hard Wallet1 1024x680 1.jpg

ในฐานะผู้คร่ำหวอดทั้งในวงการเทคโนโลยี และวงการคริปโต จึงทำให้ชาวเยอรมันรายนี้สามารถจำลองสถานการณ์ผ่านโทรศัพท์มือถือของตนเอง เพื่อทดสอบการคาดเดาระบบสุ่มคำศัพท์ดังกล่าว โดยเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งถึงความรู้สึกหลังจากค้นพบภัยคุกคามรูปแบบใหม่ว่า

“แน่นอนว่าถ้าหากการสุ่มคำศัพท์เหล่านั้นเกิดขึ้นแค่เพียงสองสามคำแรก ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ทว่าหลังจากที่โทรศัพท์มือถือของผมได้สุ่มเดาคำศัพท์จำนวน 12-24 คำจาก Seed Phrase ได้เป็นครั้งแรกนั้น ผมก็รู้สึกทึ่งไปเลย”

หลังจากตระหนักว่าผลกระทบเหล่านี้อาจถูกส่งต่อไปยังกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ได้ จึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะออกมาเตือนผู้คนในแวดวงต่าง ๆ ถึงเรื่องราวดังกล่าว นอกจากนี้ เขายังมั่นใจอย่างมากว่าจะต้องมีผู้ใช้งานรายอื่นที่ได้เคยพิมพ์ชุดคำศัพท์เหล่านั้นลงบนโทรศัพท์ของพวกเขาไปแล้วอย่างแน่นอน

มาตรการป้องกันภัยจากการแฮ็กผ่านระบบ Seed Phrase

ผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมันยังได้แนะนำมาตรการป้องกันความปลอดภัยจากการแฮ็กที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ว่าผู้ใช้คริปโตควรจัดเก็บข้อมูลสำคัญ และถือครองสินทรัพย์ในระยะยาวไว้กับ Hardware Wallet พร้อมกันนี้เขายังได้ออกมาเตือนชาว Reddit ทั่วโลกว่า

“สร้างเกราะคุ้มกันที่แข็งแกร่งให้กับตนเอง และป้องกันไม่ให้ภัยคุกคามดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยการลบ Cache ที่เกี่ยวข้องกับการคาดเดาคำศัพท์บนอุปกรณ์ของคุณออกไป”

คำเตือนของ Andre เกิดขึ้นจริงแล้ว

Seedphrasemetamask 1024x775.png
Source: PeckSheild

ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา บริษัทผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย Blockchain อย่าง PeckShield ก็ได้ออกมาเตือนชุมชนคริปโตอย่าหลงเชื่อเว็บไซต์ปลอมที่เหล่าแฮ็กเกอร์ได้ทำการดัดแปลง Plug-in จากเบราว์เซอร์ MetaMask เพื่อนำมาใช้เล่นงานกลุ่มผู้ใช้งานแอปพลิเคชันไลฟ์สไตล์บน Web3 อย่าง STEPN ผ่านระบบ Seed Phrases เป็นอันขาด เนื่องจากหากแก๊งอาชญากรเหล่านี้สามารถเจาะเข้าไปยัง Seed Phrases ได้แล้วนั้น พวกเขาก็จะสามารถเข้าควบคุมกระเป๋าคริปโตของผู้ใช้งานผ่านบัญชี STEPN ได้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง

https://twitter.com/PeckShieldAlert/status/1518499183237672960?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1518499183237672960%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fcointelegraph.com%2Fnews%2Fwarning-smartphone-text-prediction-guesses-crypto-hodler-s-seed-phrase
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

บทความที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลสหรัฐฯ สั่นคลอนวงการคริปโต หลังโอน Bitcoin มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์
Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ยอมรับ Bitcoin กำลังก้าวสู่การเป็นทองคำดิจิทัล
นักวิเคราะห์เผย! วาฬ Bticoin กำลังอยู่ในช่วง "รอดูสถานการณ์" ขณะที่ราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์
นักเทรดคริปโตในเกาหลีใต้ ทำยอดซื้อขายพุ่งทะลุ 18,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าตลาดหุ้นภายในประเทศ