ลูกค้า Visa จ่ายผ่านบัตร Crypto-Linked พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
Visa ประกาศว่าลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรที่เชื่อมโยงกับ Crypto ไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าตัวเลขของสองปีที่แล้วรวมกัน

Visa ประกาศว่าลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรที่เชื่อมโยงกับ Crypto ไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าตัวเลขของสองปีที่แล้วรวมกัน
Visa ยังคงดำเนินการพัฒนาเพื่อทำให้ธุรกรรมของ crypto ง่ายขึ้น และดูเหมือนว่าพวกเขาประสบผลสำเร็จแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Visa โพสต์ประกาศว่ามีการรับส่งเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ผ่านใช้บัตร Crypto-Linked ในปี 2021 ซึ่งเป็นตัวเลขนี้มากกว่าตัวเลขที่ Visa ประมาณการไว้ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020 และ 2019 รวมกัน
“เป็นที่ชัดเจนว่ากลุ่มนักลงทุน crypto มองเห็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงสกุลเงินดิจิทัลกับเครือข่ายทั่วโลกของ Visa” โพสต์ของ Visa
จุดขายของของโครงการนี้คือ ไม่จำเป็นต้องมีคนกลางในการยอมรับ crypto ลูกค้าสามารถชำระเงินในสกุลเงินดิจิทัล และจะถูกแปลงกเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของผู้ค้าโดยอัตโนมัติ คำแถลงกล่าวเสริมว่า
“พวกเราทำงานหนักมากที่ Visa เพื่อการเชื่อมต่อเศรษฐกิจ crypto กับ 'เครือข่ายไปยังเครือข่าย' ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการเคลื่อนไหวทางการเงินทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะในเครือข่าย Visa หรือไม่ก็ตาม”
Crypto และบัตรเครดิต
การประกาศและโครงการที่กำลังพัฒนาทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายของ Visa ในการยอมรับ cryptocurrency ในวงกว้าง ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม Visa ประกาศว่าอนุญาตให้ใช้ USD Coin ในการทำธุรกรรมบนเครือข่ายการชำระเงินของ Visa
Visa ไม่ได้เป็นบริษัทเดียวที่มีความสามารถด้านคริปโต เพราะ Mastercard ก็กำลังมองหาช่องทางในโลกสกุลเงินดิจิทัลด้วยเช่นกัน จากการวิจัยของ Mastercard พบว่าเกือบ 95% ของผู้บริโภคในอเมริกาเหนือวางแผนที่จะรวมระบบการชำระเงินที่เกิดขึ้นใหม่ภายในปีหน้า ระบบสกุลเงินดิจิทัลคือหนึ่งในนั้น
40% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า cryptocurrency จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของพวกเขาการรวมระบบ การศึกษาของมาสเตอร์การ์ดยังแสดงให้เห็นว่าสามในสี่ของคนรุ่นมิลเลนเนียลจะมีการใช้สกุลเงินดิจิทัล หากพวกเขาเข้าใจดีว่ามันคืออะไรและทำงานอย่างไร
Craig Vosburg, CPO ของ Mastercard อธิบายว่า
“โรคระบาดทำให้เราคิดต่างออกไป ส่วนหนึ่งมาจากความจำเป็น เพื่อมอบทางเลือกและความยืดหยุ่นที่ผู้ใช้บริการต้องการ ผู้ค้าปลีกทั่วโลกจำเป็นต้องนำเสนอช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายและใช้ได้ตลอดเวลาเมื่อต้องการ ในอนาคตข้างหน้า เรายังคงจำเป็นต้องให้ทางเลือกหลาย ๆ ทางต่อไป ทั้งในร้านค้าและทางออนไลน์ เพื่อสร้างโครงสร้างทางการค้าและทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน”
ที่มา: beincrypto.com