Blockchain

มากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกกำลังแข่งขันสร้างสกุลเงินดิจิทัล CBDC ของตัวเองอย่างดุเดือด

Cbdc.jpeg

ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ในแบบของตัวเอง แต่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่แตกต่างกัน แต่ละประเทศจะมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง วันนี้คริปโตสยามจะพาผู้อ่านไปดูกัน

ปัจจุบันนี้โลกมีการใช้เงินสดลดน้อยลง ย้อนกลับไปในปี 2011 การทำธุรกรรมในสหรัฐอเมริกากว่า 50% เกี่ยวข้องกับเงินสด หลังจากนั้น 10 ปี การใช้เงินสดลดลงเหลือ 28% และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การใช้เงินสดลดลงกว่าเดิม เนื่องจากมีผู้คนหันมาใช้การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสมากขึ้น

การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด (Cashless payments) หมายถึง การใช้ธนาคารและบริษัทการชำระเงินส่วนตัวสำหรับธุรกรรมที่มาพร้อมกับความล่าช้าและค่าธรรมเนียม ในสหรัฐอเมริกา มีชาวอเมริกัน 5.4% หรือ 7.1 ล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร สิ่งนี้ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางอื่น ๆ คิดเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่จะส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น

ที่น่าสนใจคือ หลายประเทศเริ่มสำรวจการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง แม้แต่เมืองใหญ่บางแห่งก็ทำเช่นนั้น ยกตัวอย่างเช่นเมือง Miami และเหรียญ MiamiCoin ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีหน้า

การสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)

ปัจจุบันระบบการชำระเงินดิจิทัลถูกควบคุมโดยธนาคารและบริษัทเอกชน แม้แต่แอพเราโอนเงินและรับเงินก็ลิงก์ไปยังบัญชีธนาคาร ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลจะเป็นการทำธุรกรรมที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ล่าช้า และต้นทุนต่ำ

ในทางทฤษฎี สกุลเงินดิจิทัลทำงานเหมือนเงินสด แต่ไม่มีข้อกำหนดในการดำเนินการ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และความล่าช้า เงินจะอยู่ในกระเป๋าสตางค์ที่ควบคุมโดยธนาคารกลาง ซึ่งอยู่นอกระบบธนาคารเอกชน ซึ่งทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะมีบัญชีธนาคารหรือไม่มีบัญชีธนาคารก็ตาม และอาจช่วยให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีประสิทธิภาพ รวดเร็วขึ้น และเข้าถึงได้

แรงจูงใจในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) แตกต่างกันไป สำหรับประเทศที่มีประชากรจำนวนมากที่ไม่มีบัญชีธนาคาร สกุลเงินดิจิทัลของประเทศสามารถช่วยส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น บางคนต้องการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางประเทศอาจต้องการรักษาอำนาจเหนือสกุลเงินของตน นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบธุรกรรมอีกด้วย

ความท้าทายอาจต้องเผชิญกับสกุลเงินดิจิทัลคือ ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เงินสดอิเล็กทรอนิกส์มีความเสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหานี้ หนึ่งในโซลูชั่นคือ การทำให้ระบบสกุลเงินดิจิทัลเป็นโอเพ่นซอร์สผ่าน API แบบเปิด

60 ประเทศอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่แตกต่างกัน

CBDC tracker ได้รวบรวมรายชื่อประเทศที่อยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ของการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)

Screenshot 2021 11 19 at 10.28.34 1024x516.png

บาฮามาสเป็นผู้นำกลุ่ม โดยมีการเปิดตัว CBDC ไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 ชื่อ Sand Dollar ตามด้วยไนจีเรีย นอกจากนี้ยังมีอีกประมาณ 13 ประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงนำร่อง (pilot stage) ได้แก่ กานา จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ตุรกี ไทย และยูเครนที่อยู่ในช่วงทดสอบความเป็นไปได้

ส่วนประเทศที่เหลือ ได้แก่ เคนยา สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ กำลังอยู่ในระหว่างการวิจัยสกุลเงินดิจิทัล

สิ่งที่น่าสนใจคือ บางประเทศกำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตนมากกว่าหนึ่งสกุล ตัวอย่างเช่น แคนาดากำลังนำร่องกับ Jasper ในขณะที่ค้นคว้าเกี่ยวกับ eDolar ไปด้วย ในทำนองเดียวกัน ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PBoC) ก็กำลังนำร่อง e-CNY และทำการวิจัย China CBDC ไปด้วย

การเปิดตัวโปรเจ็ค CBDC

บาฮามาสเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) อย่างเป็นทางการ ซึ่ง Sand Dollar ก็คือดอลลาร์บาฮามาสในเวอร์ชันดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาต ผู้ใช้สามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือบัตรชำระเงินจริงก็ได้ 

ไนจีเรียเป็นประเทศล่าสุดที่เปิดตัว CBDC ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Bitt Inc. ซึ่งยังช่วยให้ธนาคารกลางแคริบเบียนตะวันออกเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัล “DCASH” ในเดือนเมษายน

สกุลเงินดิจิทัลในขั้นตอนการนำร่อง

หลายประเทศกำลังนำร่องด้วยสกุลเงินดิจิทัลของตน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาได้พัฒนาสกุลเงินดิจิทัล และกำลังทดสอบในสภาพแวดล้อมจริง ประเทศจีนอยู่ในระดับแนวหน้าเพื่อเปิดตัว CBDC โดยประเทศกำลังทดสอบหยวนดิจิทัล (eCNY) ในเมืองใหญ่ๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทางด้าน JD.com เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซกลายเป็นบริษัทแรกที่ยอมรับหยวนดิจิทัล

Proof of Concept และการพัฒนา

ขั้นตอนการทดสอบความเป็นไปได้ถือเป็นขั้นตอนขั้นสูงสำหรับ CBDC สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่ปล่อยสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการหนุนหลังจากธนาคารกลางในประเทศ Riksbank ธนาคารกลางของประเทศสวีเดนชี้แจงว่า สกุลเงินดิจิทัลนั้นค่อนข้างแตกต่างจากคริปโตเคอร์เรนซีโดยทั่วไปเช่น Bitcoin แม้ว่าจะได้รับการพัฒนาบนเครือข่ายบล็อคเชน แต่ก็ออกแบบมาเพื่อแทนที่โครนาทางกายภาพ แม้ว่าสวีเดนจะอยู่ในยูโรโซน แต่ก็ต้องรักษาสกุลเงินของตัวเองไว้ และไม่ใช้เงินยูโร

ประเทศที่กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

ประเทศส่วนใหญ่ที่ต้องการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลมักจะอยู่ในขั้นนี้ ประเทศเหล่านี้ได้ทำการวิจัยเชิงสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับ CBDC แล้ว โดยประเทศเหล่านี้ ได้แก่ UAE รวันดา กัวเตมาลา อินเดีย สเปน และนอร์เวย์

มีเพียงห้าประเทศเท่านั้นที่ยกเลิกการพัฒนา CBDC รวมถึงตูนิเซีย เฮติ เดนมาร์ก เอกวาดอร์ และฟินแลนด์

บทสรุป

ประเทศต่าง ๆ กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลในรูปแบบดิจิทัลของตนเอง CBDC เหล่านี้แตกต่างจากคริปโตเคอร์เรนซีทั่วไป และเป้าหมายเดียวคือการสร้างสกุลเงิน fiat ของประเทศในรูปแบบดิจิทัล ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการซื้อขายหรือการลงทุน แต่ได้รับการพัฒนาผ่านเครือข่ายบล็อคเชน ซึ่งทำให้ธุรกรรมมีความปลอดภัย รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ประเทศที่เปิดตัวสกุลเงินในตอนนี้ แต่คาดว่าจะมีอีกมากที่จะเข้าร่วม เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลอาจกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกประเทศในอนาคต

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่พร้อมรับข่าวร้าย! นักเทรดคริปโตถูกล้างพอร์ตมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ครั้งแรก! Bitcoin-Ethereum ETF จาก Hashdex และ Franklin Templeton ได้รับอนุมัติพร้อมกัน
Quantum BioPharma ทุ่ม $1 ล้านดอลลาร์ใน Bitcoin และคริปโต หวังกระจายความเสี่ยงป้องกันเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์เผย! Ethereum อาจร่วงแตะ 3,000 ดอลลาร์ หากแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป