ข่าว Bitcoin

Bitcoin เหลือให้ขุดเพียง 2.5 ล้านเหรียญเท่านั้น

Photo 1518544884411 3a6cb9236aab.jpg

Bitcoin ที่ถูกขุดขึ้นมาเพื่อหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจคริปโตนั้นก้าวข้ามผ่านตัวเลขที่ 18.5 ล้านเหรียญไปแล้ว และสถานการณ์ในวันข้างหน้าของสกุลเงินดิจิทัลประเภทแรกของโลกใบนี้นั้นจะเป็นอย่างไร เรามาหาคำตอบกัน

เป็นที่รู้กันดีว่ามูลค่าของ Bitcoin (BTC) นั้นถูกจำกัดเอาไว้ที่ปริมาณทั้งสิ้น 21 ล้านเหรียญ โดยปัจจุบันนั้นมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.94 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่ง ณ ขณะนี้ สกุลเงินดิจิทัลประเภทแรกของโลกนั้นเหลือไว้สำหรับการขุดแค่เพียง 2.5 ล้านเหรียญเท่านั้น!

ในทวิตเตอร์ของ ChartBTC กล่าวว่า Bitcoin ที่ถูกขุดขึ้นมาเพื่อหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจคริปโตนั้นดูเหมือนว่าจะก้าวข้ามผ่านตัวเลขที่ 18.5 ล้านเหรียญไปแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าเหลือ Bitcoin ให้เหล่านักขุดได้ลงแรงสร้างมันขึ้นมาไม่ถึง 2.5 ล้าน BTC เข้าให้แล้ว โดยปริมาณที่เหลือทั้งหมดนั้นคิดเป็นประมาณ 11.9% ของ Bitcoin ทั้งหมด

ChartBTC ยังได้ชี้ให้เห็นว่า ครึ่งหนึ่งของจำนวน 2.5 ล้าน BTC ที่เหลืออยู่ หรือก็คือประมาณ 1.25 ล้าน BTC จะถูกขุดขึ้นมาจนครบในอีกสี่ปีข้างหน้า แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ เหรียญ Bitcoin เหรียญสุดท้ายถูกคาดการณ์เอาไว้ว่าจะสามารถขุดขึ้นมาสำเร็จในปี 2140 เนื่องด้วยระบบ Halving ที่ได้ถูกวางเอาไว้

แล้ว Bitcoin Halving คืออะไรกันแน่?

Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แพร่หลายและเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับเหล่านักขุด แต่การที่จะขุด Bitcoin ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องด้วยระบบที่ออกแบบให้เราจำเป็นต้องใช้พลังงานจากคอมพิวเตอร์ CPU และพลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล พื่อสร้าง “Block” และตรวจสอบธุรกรรมต่าง ๆ โดยระบบจะทำการตั้งค่าของรางวัลเริ่มต้นที่ 50BTC เพื่อให้ผู้ที่ลงทุนในการขุดรู้สึกคุ้มค่ากับต้นทุนและทรัพยากรที่ลงทุนไป เนื่องจากในช่วงแรก ๆ ราคา Bitcoin ยังไม่ได้สูงมากนัก

Block เก็บธุรกรรม Block แรกของ Bitcoin บนเครือข่าย Blockchain ถูกเรียกว่า “Genesis Block” ซึ่งได้ถูกขุดขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเมื่อวันที่ 3 มกราคมปี 2009 โดย Satoshi Nakamoto

Satoshi Nakamoto คือนามแฝงของคนที่เป็นผู้ให้กำเนิด Bitcoin ซึ่งเขาได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะ Bitcoin มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเท่านั้น หากเหล่านักขุดสามารถขุดได้รางวัลในเท่าเดิมไปตลอด ไม่นาน Bitcoin ก็จะหมดลง เขาจึงได้วางระบบ Bitcoin Halving หรือการแบ่งครึ่ง ของ Bitcoin ขึ้นมา ซึ่งก็คือการลดปริมาณ Bitcoin เมื่อความต้องการเพิ่มสูงขึ้นแต่ปริมาณลดลง โดยจะจำกัดจำนวน BTC ที่จะออกสู่ตลาดลงทุก ๆ 4 ปี หรือเทียบเท่าการมีอุปทานออกมาครบ 210,000 Block จนกว่าจะถึง 21 ล้าน Bitcoin

นับตั้งแต่การเกิด “Genesis Block” ตั้งแต่ปี 2009 ปัจจุบันตลาดบิทคอยน์ได้ผ่านการ Having มาแล้วถึง 3 ครั้ง นั่นก็คือครั้งแรกในปี 2012 ครั้งที่สอง 2016 ครั้งที่สาม หรือครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีนี้นั่นเอง

Bitcoin จะหมดความสำคัญและจบลงหรือไม่

ในมุมมองของนัก การที่รางวัลที่พวกเขาควรจะได้รับน้อยลงในทุก ๆ 4 ปี เหล่านักขุดเองก็อาจมองว่ามันเริ่มที่จะไม่คุ้มค่าอีกต่อไป ถ้าเทียบกับต้นทุนและทรัพยากรทั้งหมด หากราคา Bitcoin ไม่ได้พุ่งสูงดังแต่ก่อน ทั้งปัจจุบันยังมีเหรียญทางเลือกประเภทต่าง ๆ หรือ Altcoin อยู่มากมายหลายต่อหลายประเภท ในปัจจุบันจึงมีเพียงองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทั้งทรัพยากร และเงินทุนที่หนาพอเท่านั้นถึงจะสามารถขุด Bitcoin ได้ องค์กรหรือกลุ่มคนขนาดเล็กเริ่มล้มหายตายจากไปเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว

แล้วการคือครอง BTC ระยะยาวนั้นคุ้มค่าหรือไม่?

ตั้งแต่ต้นปี 2020 ความต้องการของเหล่าหน่วยงานทางกระแสหลักในด้านของ Bitcoin นั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเหล่าสถาบันการลงทุนต่างตั้งใจที่จะเพิ่มการจัดสรร Bitcoin โดยไม่คำนึงถึงราคาที่ลดลงในระยะสั้น และแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง MicroStrategy เองยังถือครอง BTC จำนวนมหาศาล

ทางเหล่าผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาคาดการณ์ถึงความเป็นไปหลังจาก Bitcoin ได้จะออกมาสู่ตลาดทั้งหมดในปี 2140 ว่า แม้ในขณะนั้นจะไม่มีการขุด Bitcoin อีกต่อไปแล้ว แต่พวกเราทุกคนก็ยังจำเป็นต้องใช้ Bitcoin ในระบบนิเวศน์อื่น ๆ อีก ซึ่งแปลว่าเหล่านักเก็งกำไรที่เข้ามาซื้อขายเพื่อกินส่วนต่างราคาที่ละนิดทีละหน่อยอาจจะไม่ได้รับประโยชน์จากมูลค่าของ Bitcoin อย่างเต็มที่เท่ากับการคาดการณ์ปัจจัยพื้นฐานของมันได้อย่างถูกต้องและถือไปยาว ๆ

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผู้ร่วมก่อตั้ง Axelar เผย! การมาถึงของ RLUSD Stablecoin จะช่วยผลักดันความต้องการ XRP อย่างมีนัยสำคัญ
ไม่พร้อมรับข่าวร้าย! นักเทรดคริปโตถูกล้างพอร์ตมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ครั้งแรก! Bitcoin-Ethereum ETF จาก Hashdex และ Franklin Templeton ได้รับอนุมัติพร้อมกัน
ข้อมูลจาก Santiment เผยสัญญาญเชิงบวก หลังพบ 104 กระเป๋าวาฬถือครองกว่า 57% ของ Ethereum ทั้งหมด