ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

อย่างโหด! มีบ.คริปโตอังกฤษแค่ 15% ที่ผ่านการพิจารณา ให้ประกอบธุรกิจได้

Rectangle Template   2023 01 27 T102926.825

มีบริษัทคริปโตแค่ 15% ที่ผ่านการพิจารณาของ FCA ให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในอังกฤษ แม้นายกรัฐมนตรี Rishi Sunak จะตั้งเป้าให้ประเทศเป็น 'ฮับคริปโต' ก็ตาม

แม้ว่าอังกฤษ จะพยายามตั้งเป้าให้ตัวเองกลายมาเป็น ‘ฮับคริปโต’ ของภูมิภาค ตามความต้องการของนายกรัฐมนตรี Rishi Sunak ก็ตาม

แต่กลับพบว่ามีบริษัทคริปโตทั่วประเทศเพียง 41 บริษัท จากทั้งหมด 300 บริษัทเท่านั้น ที่ผ่านข้อกำหนดสำหรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยหน่วยงานทางการเงินแห่งชาติ อย่าง Financial Conduct Authority หรือ FCA

จากรายงานล่าสุดของ FCA ระบุว่ามีบริษัททั้งหมด 265 ที่ได้รับการพิจารณาประกอบธุรกิจคริปโตในประเทศ แต่กลับมีเพียง 15% เท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติและได้รับการลงทะเบียน ขณะที่ที่เหลือ 74% เลือกที่จะขอถอนการลงทะเบียน, 11% ถูกปฎิเสธ และอีก 35 บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณา รวมทั้งหมด 300 บริษัท

<i>Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีอังกฤษ<br>รูปภาพ: GOV.UK</i>
Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
รูปภาพ: GOV.UK

โดยการพิจารณาจะดูจากข้อกฎหมายใหม่ที่ออกมาในเดือนมกราคม 2020 ที่ประกอบไปด้วยกฎหมายด้านการป้องกันการฟอกเงิน และป้องกันการก่ออาชญากรรมทางการเงินเช่นเดียวกับบริษัทในตลาดทุนดั้งเดิม รวมไปถึงปัจจัยด้านอื่นๆ เช่นที่มาของสภาพคล่อง, พันธมิตรทางธุรกิจ รวมไปถึงโครงสร้างต่างๆ ขององค์กร

อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ - อังกฤษ

อย่างไรก็ตามหน่วยงานไม่ได้ระบุเหตุผลสำหรับบริษัทที่ไม่ผ่านการพิจารณา แต่จะให้เป็นฟีดแบคว่ามีประสิทธิภาพ ‘ดี’ หรือ ‘ไม่ดี’ เท่านั้น

ขณะนี้บริษัทที่ได้รับการอนุมัติประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดย FCA เช่น Crypto.com, Revolut, CEX.IO, eToro, Wintermute Trading, DRW Global Markets, Copper, Globalblock, Moneybrain และ Zodia Markets.

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Bitcoin พลิกเกม! MicroStrategy กำไรพุ่งทะลุเพดาน แซงหน้า Apple, Amazon
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์