ค่าไฟของเมืองในนอร์เวย์พุ่ง 20% หลังมีการรณรงค์ให้ปิดเหมืองขุด Bitcoin เนื่องจากเสียงรบกวน
ผู้จัดการด้านเครือข่ายของ Noranett บริษัทพลังงานในท้องถิ่น ประเมินว่าหลังจากปิดเหมืองขุด Bitcoin ไปแล้ว ครัวเรือนในเมือง Hadsel จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเฉลี่ยที่ประมาณ 280 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

ผู้จัดการด้านเครือข่ายของ Noranett บริษัทพลังงานในท้องถิ่น ประเมินว่าหลังจากปิดเหมืองขุด Bitcoin ไปแล้ว ครัวเรือนในเมือง Hadsel จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเฉลี่ยที่ประมาณ 280 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
ชาวเมือง Hadsel ซึ่งเป็นเขตเทศบาลของนอร์เวย์ ได้รณรงค์ให้ปิดเหมือง Bitcoin ในท้องถิ่นเนื่องจากส่งเสียงรบกวน ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟฟ้าของประชาชนเพิ่มขึ้นเพราะเหมืองขุด Bitcoin ได้จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับบริษัทพลังงานในท้องถิ่นถึง 20% ซึ่งช่วยลดค่าไฟฟ้าของผู้บริโภครายอื่น ๆ
Daniel Batten นักลงทุนในเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมแสดงความเห็นในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 13 กันยายน ว่า “เมื่อการเมืองโจมตี Bitcoin ประชาชนคือผู้ที่ได้รับผลกระทบ”
นายกเทศมนตรี Kjell-Børge Freiberg แห่งเมือง Hadsel ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NRK ว่า เสียงจากเหมืองขุด Bitcoin รบกวนความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยตามข้อมูลจาก City Population เมือง Hadsel มีประชากรทั้งหมดอยู่ประมาณ 8,236 คน
การปิดเหมืองเกิดขึ้นในวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา แม้ว่าผู้อยู่อาศัยหลายคนจะรู้สึกพอใจหลังจากที่ได้ร่วมรณรงค์มาหลายปีเพื่อให้เหมืองขุดปิดตัวลง แต่การปิดตัวลงของเหมืองขุดซึ่งปกติคิดเป็นรายได้ถึง 20% ของ Noranett บริษัทพลังงานในท้องถิ่น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าของประชาชนในพื้นที่ต้องเพิ่มสูงขึ้นเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปของบริษัท
Robin Jakobsen ผู้จัดการด้านเครือข่ายของบริษัท Noranett กล่าวว่า “เมื่อลูกค้ารายใหญ่ปิดตัวลงอย่างกะทันหัน ย่อมส่งผลกระทบในวงกว้าง” เขาประเมินว่าหลังจากมีการปรับค่าไฟ ครัวเรือนใน Hadsel จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมปีละประมาณ 2,500-3,000 โครนนอร์เวย์ หรือประมาณ 235-280 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Batten ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า “นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการทำเหมือง Bitcoin ช่วยให้ราคาพลังงานถูกลงสำหรับประชาชนทั่วไป”
จากข้อมูลเหมืองนี้ใช้พลังงานประมาณ 80 GWh ต่อปี ซึ่งเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนประมาณ 3,200 หลังต่อปี
นายกเทศมนตรี Freiberg กล่าวเพิ่มเติมว่า เมือง Hadsel จะพยายามหาช่องทางใหม่เพื่อทดแทนการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงหลังจากการปิดตัวเหมืองขุด Bitcoin
Hadsel ไม่ใช่เมืองแรกในนอร์เวย์ที่มีการร้องเรียนเรื่องเสียงรบกวนจากเหมืองขุด Bitcoin โดยในเดือนกันยายน ปี 2022 มีรายงานจาก Cointelegraph ว่าชาวบ้านในเมือง Sortland ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทศบาลในนอร์เวย์ ก็ได้ร้องเรียนถึงปัญหาเสียงรบกวนที่เกิดจากการทำเหมืองขุด Bitcoin เช่นกัน
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว