ผู้อำนวยการหน่วยงานกำกับดูแลด้านเงินของนิวยอร์กชี้! รัฐมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศคริปโต พร้อมมุ่งเดินหน้าควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นธรรม

Adrienne Harris หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก (New York State Department of Financial Services - NYDFS) ระบุว่า รัฐนิวยอร์กเป็นรัฐที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในวงการคริปโตของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในการกำหนดกรอบกฎหมายและแนวทางกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

Harris กล่าวในงาน Consensus 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่เมืองโตรอนโต ว่า NYDFS มักได้รับการติดต่อจากฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลกลางเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีคิดด้านกฎหมายและแนวทางกำกับดูแลคริปโต

“บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสต่างเข้ามาหาเรา (NYDFS) เพื่อสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการ วิธีการออกกฎเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติว่า พวกเขาควรคิดเกี่ยวกับกฎหมายเหล่านี้อย่างไร” Harris กล่าว

แม้ในอดีต NYDFS จะเคยถูกมองว่า “เข้มงวดเกินความจำเป็น” และขาดแคลนทรัพยากรในการกำกับดูแล แต่ Harris ซึ่งเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่กันยายน 2021 ระบุว่าภายใต้การนำของเธอ NYDFS ยังคง “มีความเข้มงวดแต่ก็ยุติธรรม” พร้อมเผยว่าทีมกำกับดูแลคริปโตของหน่วยงานได้ขยายขนาดเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว

ในรัฐนิวยอร์ก บริษัทที่ดำเนินธุรกิจคริปโตจะต้องขอใบอนุญาต BitLicense หรือจดทะเบียนเป็นทรัสต์ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ (Limited-Purpose Trust Charter) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยังคงมีความยุ่งยากอยู่เช่นเดิม

“เรามีแนวทางกำกับดูแลออกมาแล้ว 9 ฉบับ ดังนั้นการได้ BitLicense หรือ Trust Charter จึงยังไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่พิสูจน์ชัดเจนก็คือบริษัทอย่าง FTX, Voyager และ Celsius ต่างไม่ผ่านการประเมินของเราและจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจในนิวยอร์ก” Harris กล่าว

ทั้งสามบริษัทคริปโตดังกล่าวล้มละลายในปี 2022 ส่งผลให้เกิดวิกฤตในอุตสาหกรรมคริปโต และตามมาด้วยการดำเนินคดีที่ยืดเยื้อหลายปี โดย Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX และ Alex Mashinsky จาก Celsius ถูกตัดสินจำคุก 25 และ 12 ปีตามลำดับ ส่วน Steven Ehrlich จาก Voyager กำลังเผชิญข้อกล่าวหาในข้อหาหลอกลวงลูกค้า

หวังเห็นกฎหมาย Stablecoin คืบหน้า

Harris ยังกล่าวถึงความคาดหวังต่อความคืบหน้าของกฎหมาย Stablecoin ซึ่งกลายเป็นประเด็นหลักของแวดวงคริปโตในปี 2025 แม้กฎหมายฉบับล่าสุดที่ชื่อว่า GENIUS Act จะเจออุปสรรคหลังพรรคเดโมแครตถอนการสนับสนุนเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม เนื่องจากมีความกังวลต่อการมีส่วนเกี่ยวข้องของประธานาธิบดี Donald Trump ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโต

อย่างไรก็ตาม Harris ยืนยันว่า NYDFS ได้ร่วมทำงานกับรัฐสภาสหรัฐฯ มาเกือบสามปี ทั้งในด้านร่างกฎหมายคริปโตและ Stablecoin รวมถึงยังได้ให้ข้อเสนอแนะทางเทคนิคอย่างใกล้ชิด

“ไม่ว่าร่างกฎหมายฉบับใด จากสภาหรือวุฒิสภา ฝ่ายรีพับลิกันหรือเดโมแครต ต่างก็ส่งทีมมาขอความคิดเห็น ขอคำปรึกษาทางเทคนิคจากเรา และข้อเสนอแนะส่วนใหญ่ก็ถูกนำไปใช้ในเนื้อหากฎหมายด้วย” Harris กล่าว

ในช่วงสรุปการสัมภาษณ์ Harris ได้เน้นย้ำว่า หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินของรัฐนิวยอร์ก (NYDFS) มุ่งมั่นที่จะรักษาบทบาทสำคัญในฐานะ 'ช่องทางระดับรัฐ' สำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่ต้องการเข้ามาดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพนอกเหนือจากกฎระเบียบในระดับรัฐบาลกลาง

อ้างอิง : Cointelegraph